ทองคำยังน่าลงทุนอยู่หรือไม่?
รอบรู้เรื่องลงทุน
icon-Facebook icon-Twitter icon-line

ทองคำยังน่าลงทุนอยู่หรือไม่?

icon-access-time Posted On 15 เมษายน 2563
By Krungsri the COACH
ในปี พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา โลกของเราได้ผ่านเหตุการณ์ความวุ่นวายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกอย่างต่อเนื่องหลายเหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้าระหว่างจีน-อเมริกา, การชุมนุมประท้วงในฮ่องกง หรือเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมาอย่างความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ-อิหร่าน, อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) และการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะตลาดหุ้น ย่อมได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เหล่านี้ ทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวล และไม่มั่นใจในการลงทุน จึงเริ่มมีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนของตนเอง กระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยเฉพาะ “ทองคำ” เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์มีมูลค่าในตัวของมันเอง และไม่เสื่อมสภาพ อีกทั้งยังสามารถเป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของธนาคารกลางทั่วโลก ราคาของทองคำจะขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาด เคลื่อนไหวขึ้น-ลงตามสภาวะเศรษฐกิจ ถ้าเศรษฐกิจไม่ดีนักลงทุนไม่มีความมั่นใจในการลงทุนก็จะกลับมาลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย ทองคำจึงกลายเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนในช่วงที่สินทรัพย์อื่นเผชิญความเสี่ยงสูงหรือมีแนวโน้มปรับตัวลดลงในช่วงเศรษฐกิจขาลง ไม่ว่าจะเป็น หุ้น น้ำมัน รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์ อื่น ๆ หรือแม้แต่อสังหาริมทรัพย์ ด้วยเหตุนี้เมื่อเศรษฐกิจเข้าสู่ช่วงขาลง จึงทำให้ทองคำเริ่มกลับมาเป็นที่นิยม และราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นตามความต้องการของนักลงทุนที่กำลังมองหาสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน
ก่อนที่จะไปตอบคำถามที่ว่า “ทองคำยังน่าลงทุนอยู่หรือไม่?” เรามาทำความรู้จักตลาดแลกเปลี่ยนทองคำในประเทศไทย รวมถึงแนวทางการลงทุนในทองคำที่เหมาะสมกัน

โดยในปัจจุบันการลงทุนทองคำในประเทศไทยจะมีอยู่ 4 รูปแบบ ดังต่อไปนี้

  • การลงทุนโดยตรงผ่านการซื้อทองคำจากร้านขายทอง
  • การลงทุนผ่านกองทุนรวมที่มีการลงทุนในทองคำ หรือเหมืองทองคำและแร่โลหะ
  • การลงทุนในสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าของไทยผ่านตลาด ‘Thailand Futures Exchange’ (TFEX)
  • การลงทุนผ่านกองทุนรวม ETF หุ้นในบริษัทที่ทำกิจการเหมืองทองคำในต่างประเทศ ผ่านบริษัทหลักทรัพย์
ที่ผ่านมา คนไทยจะนิยมสะสมทองคำในรูปของทองคำแท่ง เนื่องจากทองคำนั้นเป็นสิ่งที่แสดงถึงความมั่งคั่งร่ำรวยของคนไทยมาตั้งแต่อดีต แต่การลงทุนในทองคำแท่งนั้น มีข้อจำกัดค่อนข้างมาก ทั้งในเรื่องของราคาขั้นต่ำที่ต้องจ่าย โดยในปัจจุบันราคาทองคำอยู่ที่ประมาณ 24,000 – 25,000 บาท* ซึ่งเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงสำหรับคนพึ่งเริ่มต้นลงทุน ทำให้การซื้อทองคำแท่งโดยตรง อาจไม่เหมาะสมในแง่ของการลงทุน ส่วนการลงทุนในสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าของไทยผ่านตลาด TFEX ลงทุนกองทุน ETF หรือบริษัทที่ทำกิจการเหมืองทองคำ ในต่างประเทศผ่านบริษัทหลักทรัพย์ จำเป็นต้องอาศัยข้อมูล ความรู้และความชำนาญ หรือประสบการณ์ที่มาก ไม่อย่างนั้นอาจทำให้มีโอกาสที่จะขาดทุนสูง ดังนั้นการอาศัยการลงทุนผ่านกองทุนรวมทองคำ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาปัจจัยอย่างจำนวนเงินขั้นต่ำสำหรับการลงทุน และรูปแบบในการลงทุนที่มีให้เลือกหลากหลาย อีกทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญอย่างผู้จัดการกองทุนคอยช่วยบริหารเงินที่นำไปลงทุนให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด สามารถทำการซื้อขายได้สะดวกโดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปร้านทอง และปลอดภัยเนื่องจากไม่ต้องกังวลเรื่องการสูญหายอีกด้วย

เพราะฉะนั้น ในมุมมองของนักลงทุน จะตัดสินใจเลือกลงทุนกับทองคำ ก็ต่อเมื่อต้องการใช้ประโยชน์จากทองคำดังนี้

  • สร้างผลตอบแทนเมื่อราคาทองคำสูงขึ้น หรือเรียกว่าการเก็งกำไรนั่นเอง ถึงแม้ว่าในระยะสั้นราคาทองคำอาจจะมีความผันผวนอยู่บ้าง แต่เนื่องจากธรรมชาติของทองคำเป็นทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ทำให้ทองคำมีโอกาสที่จะมีราคาสูงขึ้นได้ในอนาคต
  • ใช้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อ เนื่องจากในยามที่อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ราคาทองคำก็มักจะขยับตัวขึ้นด้วย และหลาย ๆ ครั้งที่ราคาทองคำนั้นเพิ่มขึ้นสูงกว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ ทำให้นักลงทุนที่ถือครองทองคำอยู่สามารถรักษาอำนาจการซื้อไว้ได้
  • กระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง เนื่องจากผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำมักจะไม่เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันกับการลงทุนในหุ้น ตราสารหนี้ หรือสินทรัพย์เพื่อการลงทุน อื่น ๆ ดังนั้นการมีทองคำเป็นสินทรัพย์ส่วนหนึ่งจึงช่วยให้อุ่นใจได้มากขึ้น
ดังนั้น ถ้าจะถามว่า “ทองคำยังน่าลงทุนอยู่หรือไม่?” คงขึ้นอยู่กับว่าเรานั้นต้องการประโยชน์อะไรจากการลงทุนในทองคำ โดยทองคำนั้นเป็นเครื่องมือในการลงทุนเพื่อการกระจายความเสี่ยงมากกว่าการทุ่มเงินลงทุนในทองคำทั้งหมด เนื่องจากทองคำนั้นมีความผันผวนในระยะสั้นค่อนข้างสูง สำหรับการจัดพอร์ตการลงทุนของเรา จึงควรจัดให้มีสินทรัพย์อย่างทองคำในพอร์ตการลงทุนไม่เกิน 10% ของมูลค่าสินทรัพย์เพื่อการลงทุนของเราทั้งหมด และที่สำคัญที่สุดก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดก็ตาม อย่าลืมศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ เพราะการลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนต้องศึกษารายละเอียดด้วยตัวเอง ก่อนตัดสินใจลงทุน
 
pym-user-icon
หากคุณสนใจที่จะลงทุนในกองทุน สนใจด้านการวางแผนการเงิน และต้องการคำแนะนำ และต้องการคำแนะนำ สามารถพูดคุยกับ Money Mentor จาก Krungsri Plan Your Money ได้ที่เบอร์ 1572 กด 5 จ.-ศ. เวลา 9.00-17.00 น. หรือติดต่อทางเว็บไซต์ Plan Your Money
*ข้อมูล ณ เดือนเมษายน 2563
pym logo
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา