DCA หรือ Dollar Cost Averaging เป็นเทคนิคการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน ด้วยจำนวนเงินเท่า ๆ กัน อย่างต่อเนื่อง ซึ่งก่อนที่เราจะตัดสินใจลงทุนกองทุนแบบ DCA นั้น ก็ควรศึกษาหาข้อมูลกองทุนนั้นอย่างละเอียด
โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ปี 2023 ในภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความผันผวน ก็ยังมีกองทุนรวมที่น่าสนใจลงทุนหลายกองทุน บทความนี้จะพาทุกท่านไปพบกับกองทุนเด่นที่เหมาะสำหรับการลงทุนแบบ DCA ทั้งหมด 8 กองทุน เพื่อเป็นแนวทางให้กับนักลงทุนสาย DCA ทุกท่าน
1. KFSMART: โอกาสรับผลตอบแทนโดยไม่ต้องเสี่ยงสูง
ระดับความเสี่ยง: 4 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ)
จุดเด่นที่น่าสนใจ:
- ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ ตราสารหนี้ที่ออกโดยสถาบันการเงินหรือบริษัทเอกชนในประเทศ ตราสารหนี้ที่ออกโดยสถาบันการเงินหรือบริษัทเอกชนต่างประเทศ ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade)
- โอกาสรับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเงินฝากและกองทุนรวมตราสารเงินจากการเพิ่มความยืดหยุ่นในการกระจายการลงทุน
- เน้นลงทุนในตราสารคุณภาพดีมีความมั่นคงและความสามารถในการชำระเงินต้นและดอกเบี้ย
สนใจอ่านข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่
หนังสือชี้ชวน KFSMART
2. KF-CSINCOM: คัดสรรตราสารหนี้คุณภาพดีจากทุกมุมโลก
ระดับความเสี่ยง: 5 (ปานกลางค่อนข้างสูง)
จุดเด่นที่น่าสนใจ:
- ลงทุนในกองทุนหลักผ่าน PIMCO GIS Income Fund เฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV
- ขยายโอกาสการลงทุนด้วยการเพิ่มความยืดหยุ่นในการกระจายลงทุนในตลาดตราสารหนี้หลากหลายประเภทที่มีศักยภาพทั่วโลก
- ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
สนใจอ่านข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่
หนังสือชี้ชวน KF-CSINCOM
3. KFCORE: กองทุนหลักในพอร์ตการลงทุน (Core Port) สำหรับทุกคน
ระดับความเสี่ยง: 5 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง)
จุดเด่นที่น่าสนใจ:
- ลงทุนผ่านกองทุนรวมต่างประเทศ BGF ESG Multi Asset Fund, Class I2 Hedged USD เฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV
- ให้ความสำคัญกับการพิจารณาปัจจัยด้าน ESG ในการเลือกลงทุน เพื่อความยั่งยืนของผลตอบแทนจากการลงทุน
สนใจอ่านข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่
หนังสือชี้ชวน KFCORE
4. KFDYNAMIC: กองทุนหุ้นไทยศักยภาพสูงต้องกรุงศรีหุ้นไดนามิค
ระดับความเสี่ยง: 6 (เสี่ยงสูง)
จุดเด่นที่น่าสนใจ:
- ลงทุนในหุ้นเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV โดยเน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีแนวโน้มการเติบโตในอัตราที่สูง
- พอร์ตที่เน้นลงทุนในหุ้นที่ผู้จัดการกองทุนเชื่อมั่นสูง กลยุทธ์ลงทุนเชิงรุก เฟ้นหาหลักทรัพย์ที่มีศักยภาพสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดไม่เกิน 20 หลักทรัพย์
- แนวทางการลงทุนที่มีความยืดหยุ่นสูง ไม่มีข้อจำกัดในด้านประเภทหุ้น ไม่ว่าจะเป็นหุ้นปันผล หุ้นเติบโต หุ้นขนาดใหญ่ หรือขนาดเล็ก
สนใจอ่านข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่
หนังสือชี้ชวน KFDYNAMIC
5. KFGBRAND: เป็นเจ้าของหุ้นแบรนด์ชั้นนำผ่านกองทุนระดับโลก
ระดับความเสี่ยง: 6 (เสี่ยงสูง)
จุดเด่นที่น่าสนใจ:
- ลงทุนในบริษัทชั้นนำระดับโลกที่เป็นผู้นำทางธุรกิจและมีความได้เปรียบทางการแข่งขัน โดยพิจารณาจาก Intangible Assets เช่น การมีเครื่องหมายการค้าเป็นที่รู้จักทั่วโลก การเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์สินค้า หรือกลวิธีการจัดจำหน่าย เป็นต้น
- มุ่งสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาวจากการลงทุนในหุ้นคุณภาพดีที่มีความทนทานต่อภาวะตลาด (Defensive stock) เป็นหลัก จึงมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในช่วงตลาดขาขึ้นและยังช่วยป้องกันความเสี่ยงของเงินลงทุนในช่วงตลาดขาลงได้อีกด้วย
- กองทุนหลัก Morgan Stanley Investment Funds – Global Brands Fund (Class Z) มีผลการดำเนินงานในอดีตที่โดดเด่นในระยะยาว
สนใจอ่านข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ หนังสือชี้ชวน
KFGBRAND-A ชนิดสะสมมูลค่า และ
KFGBRAND-D ชนิดจ่ายเงินปันผล
และสำหรับนักลงทุนท่านใด ที่ต้องการความสะดวกสบายจากการลงทุน อยากลงทุนครั้งเดียว มีผู้ช่วยปรับพอร์ตการลงทุนให้ทันต่อสถานการณ์ลงทุนแบบอัตโนมัติ ขอแนะนำกองทุนเด็ดจากธนาคารกรุงศรีฯ
กองทุนกรุงศรี The One: กองทุนผสมที่พร้อมรับมือกับทุกสภาวะการลงทุน
ระดับความเสี่ยง: 5 (ปานกลางค่อนข้างสูง)
จุดเด่นที่น่าสนใจ:
- ลงทุนผสมหลากหลายสินทรัพย์ ทั้ง หุ้น ตราสารหนี้ สินทรัพย์ทางเลือก ผ่านกองทุนรวม และ/หรือ กองทุน ETF ทั้งในและต่างประเทศอย่างน้อย 2 กองทุน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV
- ใช้มุมมองการลงทุนหนึ่งเดียว Krungsri ONE View จาก Krungsri Investment Committee ซึ่งรวมผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทในเครือกรุงศรี เพื่อสร้างสรรค์กลยุทธ์การจัดพอร์ตลงทุนที่ดีที่สุด
- เป็นตัวช่วยให้นักลงทุนจัดพอร์ตตามความเสี่ยงได้อย่างง่ายดาย โดยสามารถกระจายความเสี่ยง และเข้าถึงหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก ด้วยการลงทุนเพียงกองทุนเดียว
- มีให้เลือก 3 กองทุน 3 สไตล์
- KF1MILD เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ค่อนข้างต่ำ ต้องการผลตอบแทนที่ชนะเงินเฟ้อ
- KF1MEAN เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ ชรับความเสี่ยงได้ปานกลาง ต้องการสร้างการเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาว
- KF1MAX เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง ต้องการผลตอบแทนสูงสุดและสามารถรับความผันผวนได้
สรุป
หากต้องการปรึกษาหรือขอคำแนะนำเพิ่มเติมในด้านกองทุนรวมที่น่าสนใจ ทางธนาคารกรุงศรีมีผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและการลงทุนโดยเฉพาะ ที่สามารถปรึกษาผ่านช่องทางฮอตไลน์ได้ที่ 02-296-5959 จันทร์ - ศุกร์ เวลา 9.00 น. - 17.00 น. หรือฝากข้อมูลเพื่อให้
ที่ปรึกษาทางด้านการเงินจากธนาคารกรุงศรี ติดต่อกลับ
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
- ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- กองทุน KFSMART / KF-CSINCOM อาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Non-investment grade) หรือที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Bond) ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกตราสารซึ่งส่งผลให้ผู้ลงทุนขาดทุนจากการลงทุนบางส่วนหรือทั้งจำนวนได้ และในการขายคืนหน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับเงินคืนตามที่ระบุไว้ในโครงการ
- กองทุน KFCORE / KFGBRAND / KF1MILD / KF1MEAN / KF1MAX ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
บทความโดย
สิรภัทร เกาฏีระ CFP®
กลุ่มบริการที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา