4 เทคนิคการลงทุนสไตล์วัยทำงานแบบง่าย ๆ
รอบรู้เรื่องลงทุน
icon-Facebook icon-Twitter icon-line

4 เทคนิคการลงทุนสไตล์วัยทำงานแบบง่าย ๆ

icon-access-time Posted On 09 เมษายน 2562
By Krungsri The COACH
หลายคนอยากเริ่มต้นลงทุนให้เงินงอกเงย แต่พอเห็นตัวเลขในบัญชีปุ๊บ ก็ต้องเจอกับปัญหาด่านแรก นั่นก็คือ ‘ทุนน้อย’ หรือ ‘เงินไม่พอ’... นั่นเอง จนท้อใจเลิกคิดลงทุนไปเลยก็มี แต่จะลงทุนอะไรที่ให้ผลตอบแทนสูงได้บ้าง? จริง ๆ แล้วการจะเริ่มต้นลงทุน มีด้วยกันหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการออมเงินจนได้เป็นเงินก้อนก่อนนำไปลงทุน หรือจะใช้เงินก้อนในการลงทุนตั้งแต่ต้นเลยก็ได้
สำหรับคนที่มีเงินน้อย และเป็นมือใหม่สงสัยว่าควรลงทุนอะไรดี อย่าเพิ่งถอดใจ!! เพราะการลงทุนที่ชาญฉลาดไม่จำเป็นต้องอาศัยต้นทุนที่มีจำนวนมากเลย แต่หากเรามีการวางแผนการลงทุน การวางแผนการเก็บเงิน และมีเวลาศึกษาการลงทุนที่ตัวเองสนใจ ก็จะสามารถทำให้เงินที่ไม่มากนี้ งอกเงยจนกลายเป็นเงินก้อนใหญ่ได้เลยทีเดียว มาดู 4 วิธีง่าย ๆ ของการวางแผนทางการเงินและการลงทุนแบบความเสี่ยงต่ำ ต้นทุนน้อย ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ มาเริ่มตั้งต้นลงทุนกันเลย!

การลงทุน คืออะไร

การลงทุน หมายถึง การใช้เงินหรือทรัพย์สินเพื่อซื้อสินทรัพย์หรือวัตถุที่มีโอกาสที่จะทำให้ได้กำไรหรือผลตอบแทนในอนาคต เช่น การซื้อหุ้น การลงทุนในตลาดทุน การซื้ออสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น

การลงทุนมีความเสี่ยงที่จะเสียเงินได้เช่นกัน โดยผลตอบแทนที่ได้รับอาจขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพการเงินของบริษัท สถานการณ์เศรษฐกิจ และปัจจัยกำหนดค่าเงินตรา การลงทุนจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและพิจารณาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นด้วยด้วยตัวเอง

1. เริ่มต้นเก็บเงิน Step แรกด้วยวิธีฝากประจำ

วิธีการลงทุนนี้เป็นวิธีวางแผนการเงินสำหรับคนที่มีเงินเก็บไม่มากนัก แต่ก็สามารถเลือกลงทุนง่าย ๆ และได้ผลตอบแทนแบบแน่นอนด้วยการออมเงิน โดยวิธีนี้จะเป็นแนวคิดที่เหมือนกับการหยอดกระปุกหมูน้อยตอนเด็ก ๆ นั่นคือการค่อย ๆ เก็บเงินอย่างสม่ำเสมอ ลองคิดดูเล่น ๆ ว่าเก็บเงินเดือนละ 1,000 บาท อาจจะดูเป็นเงินน้อย แต่ในหนึ่งปี คุณก็จะได้เงินราว ๆ 12,000 บาทแล้ว!
เราลงทุนโดยการออมเงินได้ จากแนวคิดหยอดกระปุกหมูเป็นประจำทุกเดือน เปลี่ยนเป็นการเปิดบัญชีฝากประจำซึ่งดอกเบี้ยจะสูงกว่าการฝากออมทรัพย์ปกติ และเมื่อฝากประจำครบกำหนดสามารถถอนเงินออกมาพร้อมกับดอกเบี้ย เงินต้นปลอดภัยเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือดอกเบี้ยที่มากกว่าการฝากบัญชีออมทรัพย์ เพียงเริ่มออมกับเงินฝากประจำปลอดภาษี 24 เดือน และ 36 เดือน บัญชีเงินฝากประจำปลอดภาษี สำหรับบุคคลธรรมดา ที่ฝากขั้นต่ำเพียง 500 บาทต่อเดือน โดยจะต้องฝากเงินแต่ละเดือนในจำนวนที่เท่ากันจนครบกำหนดระยะเวลาฝาก แล้วดอกเบี้ยยังได้รับการยกเว้นภาษีอีกด้วย

2. การลงทุนแบบ DCA (Dollar Cost Average)

สำหรับใครที่มั่นใจว่ามีวินัยทางการเงิน แต่ไม่รู้จะเอาเงินไปลงทุนอะไรดี ก็ลองมารู้จักการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน หรือ Dollar Cost Average (DCA) เป็นวิธีที่ทำให้เงินงอกเงยได้จากการลงทุนหุ้นและกองทุนรวม ซึ่งเราสามารถกำหนดจำนวนเงินเพื่อลงทุนเป็นงวด ๆ งวดละเท่า ๆ กัน จะลงทุนเป็นรายเดือนหรือไตรมาสก็ดี โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องความผันผวนของหน่วยลงทุนหรือหุ้นที่จะซื้อ จุดเด่นของการลงทุน DCA คือการสร้างวินัยในการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ กำหนดเป้าหมายเป็นจำนวนเงินที่ต้องการลงทุนเป็นหลัก ช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องของราคาที่ซื้อสูงไป เพราะมีการถัวเฉลี่ยราคาจากการซื้อทุกเดือน จะเห็นได้ว่าเราสามารถนำ DCA ไปประยุกต์ใช้กับหุ้นหรือกองทุนที่เราสนใจได้ โดยลงทุนซื้อตามวันที่กำหนดของทุกเดือน ซื้อแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เพื่อการลงทุนระยะยาว อาจเพิ่มเงินลงทุนในแต่ละปีให้มากขึ้น ในอนาคตเราก็จะมีเงินออมไว้ใช้ในวัยเกษียณจากการวางแผนการออมเงินที่ดีจากวิธีนี้ได้เช่นกัน

3. ลงทุนทองคำแท่ง

การลงทุนทองคำแท่งเป็นอีกหนึ่งวิธีการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนได้ดีไม่แพ้การเล่นหุ้นหรือสะสมกองทุน เพราะ ซื้อง่าย ขายคล่อง และยังจำนำได้ คนไทยเราคุ้นเคยกับทองคำรูปพรรณซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความร่ำรวย อย่างไรก็ดีทองคำแท่งก็เป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนให้ความสนใจเก็งกำไรเช่นกัน เนื่องจากมีค่าบล็อกที่ถูกกว่าค่ากำเหน็จทองรูปพรรณ และราคารับซื้อของทองคำแท่งยังถูกหักน้อยกว่า ซึ่งรูปแบบการลงทุนทองคำแท่งที่ได้รับความนิยมก็คือการซื้อผ่านร้านทอง ถ้าราคาทองคำแพงขึ้นมากกว่า 150 บาท ก็จะกำไรจากการขาย ถ้าใครไม่สะดวกเดินทาง คุณสามารถซื้อขายผ่านระบบออนไลน์กับบริษัทค้าทอง ที่เปิดบริการเกือบ 24 ชั่วโมง
สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ไม่ได้มีเงินก้อนโต ลองพิจารณาการออมทอง (Gold Saving) ที่เราสามารถกำหนดจำนวนเงินที่จะซื้อต่อเดือนได้เอง โดยเริ่มต้นที่ 1,000 บาทเท่านั้น ซึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัยและประหยัดที่สุด แต่สร้างโอกาสให้ผลตอบแทนดีกว่าการฝากเงินแล้วรอรับดอกเบี้ย เหมาะกับคนที่อยากลงทุนระยะยาวแต่มีงบไม่มาก

4. ลงทุนในกองทุนรวมความเสี่ยงต่ำ

หลายคนอาจคิดว่าการลงทุนกับกองทุนรวม ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ และต้องมีความเสี่ยงสูง แต่เราสามารถเลือกกองทุนที่เหมาะสมตามกำลังทรัพย์ได้ สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ไม่ทราบว่าควรลงทุนอะไรดี หรือจะเอาเงินเก็บไปพักไว้ที่ไหนดี สามารถลงทุนกับกองทุนรวมอย่างตราสารหนี้หรือตราสารตลาดเงิน ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำนี้ได้ และราคาเริ่มต้นขั้นต่ำในการลงทุนเพียงเดือนละ 1,000 – 2,000 บาทก็สามารถลงทุนกับกองทุนได้แล้ว โดยระยะเวลามีตั้งแต่ระยะสั้น 6 เดือน ไปจนถึงระยะยาว 5 ปีขึ้นไป และไม่มีการผูกมัดอะไรมาก แต่เนื่องจากเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ ดังนั้นผลตอบแทนจึงอาจได้รับในปริมาณน้อยตามเงินลงทุนไปด้วย เมื่อคุณมีทุนมากพอก็อาจขยับไปลงทุนในกองทุนความเสี่ยงสูงที่ให้ผลตอบแทนสูงในอนาคตก็ได้
แค่นี้ การลงทุนด้วยเงินลงทุนน้อยก็จะไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เมื่อรู้เทคนิคการวางแผนการใช้เงินและการลงทุนแบบนี้แล้ว ใคร ๆ ก็สามารถเรียนรู้และวางแผนการเงินได้แบบมือโปร...แต่สำหรับใครที่อยากเพิ่มความง่ายรวดเร็วทันใจให้กับการลงทุนของคุณ ขอแนะนำให้ใช้ KMA krungsri app เพราะสามารถซื้อกองทุนหรือลงทุนได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ผ่านมือถือของคุณ เปิดโอกาสให้คุณเข้าถึงการลงทุนทุกที่ ทุกเวลา ทำให้เรื่องการเงินการลงทุน และการวางแผนการเงินวัยทำงาน เป็นเรื่องง่ายของทุกคน!
pym logo
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา