เคล็ดลับขาช้อป ช้อปปิ้งต่างประเทศให้กระเป๋าไม่ฉีก

เคล็ดลับขาช้อป ช้อปปิ้งต่างประเทศให้กระเป๋าไม่ฉีก

By Krungsri Society

ไปเที่ยวต่างประเทศทั้งที สาว ๆ คงวางแผนจะชอปให้กระจาย แต่สาวยุคใหม่ต้องฉลาดช้อปด้วยบัตรเครดิต รูดซื้อของได้ถูกใจในราคาสุดคุ้ม

วันนี้มาเอาใจขาช้อปกันหน่อยดีกว่า ขาช้อปแบบเรา ๆ แน่นอนว่าการได้ไปช้อปปิ้งที่ต่างประเทศเป็นอะไรที่เลิศสุด ๆ เพราะว่าของหลายอย่าง สินค้าหลายตัว ราคาถูกกว่าเมืองไทยเป็นไหน ๆ แต่ถ้าจะให้เราถือเงินสดก้อนใหญ่เพื่อเตรียมช้อปปิ้งโดยเฉพาะ ก็น่าจะเป็นเรื่องเสี่ยงเกินไป การพก "บัตรเครดิต" ไปทริปต่างประเทศด้วยเลยเข้ามาแก้ปัญหาตรงนี้ได้อย่างตรงจุดพอดิบพอดี
"บัตรเครดิต" ถือเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนี่งเวลาที่เราจะไปช้อปปิ้งในต่างประเทศ เพราะนอกจากเราไม่ต้องพกเงินสดติดตัวเยอะ ๆ แล้ว บางทีก็ยังได้โปรโมชั่นดี ๆ จากการรูดบัตรเครดิตอีกด้วย แต่ก่อนจะไปรูดปรื๊ด ๆ สิ่งที่ต้องระวังก็คือ นักช้อปหลายคนมักจะลืมตัวจนกระเป๋าฉีกกลับมาก็ไม่น้อย เพราะเวลาที่เราไปใช้บัตรเครดิตที่ต่างประเทศ นอกเหนือจากที่เราต้องแลกเงินเป็นสกุลเงินของประเทศนั้น ๆ แล้ว ก็ยังมีเรื่อง "ค่าธรรมเนียม" ที่เราต้องระวังด้วย
หลายคนไม่รู้ว่ามีค่าธรรมเนียมเวลาที่เราไปรูดบัตรเครดิตที่ต่างประเทศด้วย เป็นค่าธรรมเนียมที่เรียกว่า "ค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน" หรือ "ค่าธรรมเนียมแลกเงิน" โดยทั่วไปทางธนาคารเจ้าของบัตรจะคิดที่ 2 - 2.5% ของยอดเงินที่เราใช้จ่าย เพราะธนาคารต้องมีการป้องกันความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนที่เรารู้กันว่าขยับกันแทบจะทุกวินาทีอยู่แล้ว แล้วถ้าเราไม่คำนวณให้ดีไม่แน่ว่าการที่เราไปช้อปที่ต่างประเทศไป ๆ มา ๆ อาจจะแพงกว่าซื้อที่ประเทศไทยก็เป็นไปได้
ดังนั้นเลยแนะนำว่า ก่อนเดินทางอย่าลืมเช็กด้วยว่า "ค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน" ของบัตรเครดิตที่เราจะนำไปใช้เค้าคิดเท่าไหร่ แล้วถ้าเรามีบัตรเครดิตหลายใบก็ควรลองเปรียบเทียบดูว่าเจ้าไหนค่าธรรมเนียมถูกที่สุด ไม่แน่ว่าอาจจะมีโปรโมชั่นลดค่าธรรมเนียมบางช่วงเวลา บางเจ้าอาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษที่ตรงกับความต้องการในการใช้จ่ายต่างประเทศของเรา เช่น เครดิตเงินคืนเมื่อใช้จ่ายต่างประเทศ รับคะแนนสะสม 2-3 เท่าเมื่อใช้จ่ายในต่างประเทศ สิทธิ์ฟรีค่าที่พัก เป็นต้น หลังจากทีเราเลือกบัตรเครดิตได้แล้ว เวลารูดบัตรเครดิตเราสามารถคำนวณจำนวนเงินที่จะถูกเรียกเก็บได้ โดยเริ่มจาก
  • รู้อัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินประเทศที่ไปท่องเที่ยวแปลงเป็นค่าเงินบาทก่อน แต่ต้องดูเรทที่ตรงกับวันที่เรารูดบัตรเครดิตด้วยนะ ซึ่งสามารถเข้าไปเช็กจากเว็บไซต์ตามประเภทของบัตรเครดิตที่เราถือ เช่น VISA Mastercard AMEX JCB UnionPay เป็นต้น ซึ่งแต่ละประเภทก็มีอัตราแลกเปลี่ยนถูกแพงต่างกัน
  • หลังจากที่เราได้จำนวนเงินที่แปลงเป็นบาทแล้วก็เอาไปคูณกับ "ค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน" ก็จะได้ค่าธรรมเนียมที่เราต้องจ่าย
  • เอายอดราคาสินค้าที่แปลงเป็นเงินบาทบวกกับค่าธรรมเนียม ก็จะได้จำนวนเงินที่เราต้องจ่ายให้กับธนาคาร
การพกบัตรเครดิตที่ดีที่ทำให้เรา รูดได้ แลกง่าย สะดวก ไม่มีค่าธรรมเนียม จึงทำให้เราเที่ยวทั่วโลกได้อย่างสุขใจ แต่ขอแนะนำว่าก่อนเดินทาง เราควรโทรไปแจ้ง หรือสอบถามกับทางธนาคารก่อนด้วยเสมอนะว่าจะเดินทางไปประเทศอะไรบ้าง จะใช้บัตรใบไหนอย่างไร ถ้าหากเราลืมแจ้งแล้วไปรูดใช้ในต่างประเทศ เราอาจโดนระงับบัตรโดยไม่รู้ตัว เพราะธนาคารจะคิดว่าบัตรเราอาจโดนขโมยไปใช้ เนื่องจากอยู่ ๆ ก็มีการรูดในต่างประเทศ หลายคนอาจจะมองว่าวุ่นวาย แต่จริง ๆ แล้วเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อตัวเราเองทั้งนั้น ดังนั้นห้ามลืมเด็ดขาดไม่อย่างงั้นไปเที่ยวแล้วมีเงินไม่พอช้อปปิ้งจะหมดสนุกเอาได้
สุดท้ายมีเคล็ดไม่ลับสำหรับขาช้อปเวลาที่เราไปช้อปปิ้งที่ต่างประเทศมาฝากกัน นั่นก็คือ อย่าลืมไปขอภาษีคืน (Tax Refund) เนื่องจากเราไม่ใช่คนของประเทศเค้า เราก็ไม่มีหน้าที่จะต้องไปเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax - VAT) เราสามารถขอภาษีส่วนตรงนี้คืนได้
ดังนั้นอย่าลืมศึกษากฎหมายเรื่องนี้ของแต่ละประเทศที่เราจะไปช้อปปิ้งด้วยเพราะเราจะเหมือนว่าได้ส่วนลดมาไม่น้อยเลยทีเดียว การคำนวณทุกอย่างก่อนรูดบัตรทุกครั้งจะเป็นตัวช่วยคอยป้องกันไม่ให้กระเป๋าฉีกได้เป็นอย่างดี
ขอบคุณข้อมูลจาก: -
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา