ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหน อากาศเมืองไทยก็แสนจะอบอ้าว ฤดูหนาวประเภทกะปริบกะปรอยที่มาบ้างไม่มาบ้างช่างหาความแน่นอนไม่ได้เอาเสียเลย ทางที่ดีหากเราพอมีเวลาปลีกตัวจากงานอยู่บ้างล่ะก็ รีบกางปฎิทินยื่นใบลาพักร้อน ออกเดินทางไปนอนแช่น้ำยังปลายทางที่ในครั้งนี้เรากระชับวงล้อมอยู่ใน 3
สถานที่ท่องเที่ยวสุดชุ่มฉ่ำที่เหล่านักเดินทางทั้งหลายต่างก็ยกย่องว่าผืนน้ำแต่ละแห่งนั้นใสแจ๋วราวแผ่นกระจก
หล่มภูเขียว จังหวัดลำปาง
นับเป็นสถานที่ที่ได้รับการยกย่องว่าสุด
unseen แห่งหนึ่งในเมืองไทย ในทุก ๆ ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงปลายฝนต้นหนาวราวเดือนตุลาคมเรื่อยไปถึงกุมภาพันธ์หล่มภูเขียว จะคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศ ด้วยแหล่งท่องเที่ยวสุดอันซีนแห่งนี้คือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจากหลุมยุบของภูเขาหินปูนที่คาดว่ามีอายุราว 280 ล้านปี จนกลายเป็นแอ่งน้ำธรรมชาติลึกกว่า 40 เมตรคอยกักเก็บน้ำฝนสีเขียวมรกตในฤดูฝน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้าราวกับน้ำทะเลอันดามันในฤดูหนาวโดยตั้งอยู่เป็นส่วนหนึ่งในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไทครอบคลุมพื้นที่ถึง 3 อำเภอในจังหวัดลำปาง นอกจากนี้ในบริเวณอุทยานฯ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ อาทิ ถ้ำผาไท ห้วยแม่พลึง หรืออ่างเก็บน้ำเขื่อนกิ่วลม ที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่ากัน
Location: อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท ต.บ้านอ้อน อ.งาว จ.ลำปาง สระมรกต จังหวัดกระบี่
มุ่งหน้าลงใต้มายังจังหวัดกระบี่ เมืองทะเลที่มักถูกกล่าวถึงเป็นลำดับแรก ๆ สำหรับความงดงามแห่งท้องทะเล แต่แหล่งน้ำจืดผืนใสสีเขียวมรกตสมชื่อ “สระมรกต” ของที่นี่นั้นมีที่มาจากธารน้ำอุ่นใต้ดินที่รักษาอุณหภูมิน้ำเอาไว้ที่ 30 – 50 องศาเซลเซียสเป็นเหตุให้สารแขวนลอยในน้ำตกตะกอนจนน้ำใสราวกับกระจก และอุณหภูมิที่พอเหมาะพอเจาะนี้เองที่ทำให้สาหร่ายน้ำและสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กเติบโตได้ดีจนน้ำในสระมีสีเขียวมรกตแปลกตากว่าที่อื่น ๆ นอกจากนี้บริเวณดังกล่าวยังประกอบด้วยเส้นทางศึกษา
ธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการพบ “นกแต้วแร้วท้องดำ” ซึ่งสูญพันธุ์ไปแล้วเกือบ 100 ปีในที่แห่งนี้อีกด้วย สำหรับที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถเล่นน้ำให้สดชื่นได้ตามอัธยาศัย แต่ไม่สามารถนำอาหารเข้ามาในพื้นที่ได้
Location: เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประบางครามต.คลองท่อมเหนือ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
นับเป็นสถานที่ที่ติดโผอยู่ตลอดสำหรับใครที่มองหาที่พักผ่อนติดน้ำแบบวิวหลักล้าน ด้วยผืนน้ำใสกว้างสุดลูกตาตัดกับป่าเขียวขจีที่ขึ้นอยู่บน
ภูเขาหินปูน เรียงรายอย่างเหมาะเจาะราวกับงานศิลป์ จนได้ชื่อว่า “กุ้ยหลินเมืองไทย” การมาเยือนที่นี่ว่ากันว่าควรอย่างยิ่งที่จะต้องพักค้างแรมสักคืนเป็นอย่างน้อย เพื่อจะได้มีเวลามากพอสำหรับล่องเรือชมทะเลสาบกลุ่มหินสามเกลอ เขาอินเดียนแดง และหน้าผาหญิงสาว ซึ่งนับเป็นไฮไลต์ที่ผู้มาเยือนไม่ควรพลาด ตลอดจนการตื่นมาจิบกาแฟอุ่น ๆ ชมหมอกในตอนเช้าและหากโชคดีที่นี่ยังเป็นอีกแห่งหนึ่งที่นักชมนกจะมีโอกาสได้ชมนกเงือกกันอีกด้วย
Location: เขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชียวหลาน) ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 3 สถานที่ที่เราหยิบมาแนะนำกันในครั้งนี้หวังว่าพอจะเป็นปลายทางที่น่าสนใจในการ
จัดทริปท่องเที่ยวแบบเก็บตกหลังเทศกาลปีใหม่ เพราะบางทีการหาเวลาหนีไปเที่ยวเงียบ ๆ ในช่วงนี้อาจจะช่วยให้คุณซึมซับกับธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ได้อย่างเป็นส่วนตัวมากขึ้นก็ได้นะครับ