หลายคน ๆ คงเฝ้ารอวันที่จะเปิดให้เดินทางออกไปนอกประเทศหลังจากหมดโควิดกันอยู่ใช่หรือเปล่า?
เชื่อว่าตอนนี้หลายคน คงเตรียมตัวจัดทริปท่องเที่ยวกันแล้ว ยิ่งผ่านช่วงสถานการณ์โควิดระบาดมา ทำให้ไม่ได้ออกไปเที่ยวไหน ตอนนี้ก็คงเตรียมแพ็คกระเป๋าพร้อมลาพักร้อนไป
เที่ยวต่างประเทศกัน ลองมาดูกันว่ามีประเทศไหนที่เรทเงินดี น่าออกไปเที่ยวหลังจากหมดโควิดบ้าง
ตุรกี - ดินแดนต้องมนต์
ประเทศในเอเชีย ที่มีความงามผสมผสานกันสองวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว อุดมไปด้วยอารยธรรมโบราณและประวัติศาสตร์อันน่าหลงใหล ตุรกีเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงเดือนกรกฎาคมจะตรงกับช่วงหน้าร้อน ที่สำคัญเที่ยวตุรกีไม่ต้องใช้วีซ่าด้วยนะ
ถ้าพูดถึงตุรกีหลายคนก็คงนึกถึง คัปปาโดเกีย (Cappadocia) ความใฝ่ฝันของนักท่องเที่ยวที่ได้จะขึ้นบอลลูนชมวิวสักครั้งในชีวิต แต่ตุรกียังมีที่ให้เที่ยวมากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็น ปามุกกาเล (Pamukkale) หรือปราสาทปุยฝ้าย เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดจากธารน้ำใต้ดินที่อุดมไปด้วยแร่หินปูนจับตัวแข็งเป็นริ้ว แอ่ง ชั้น ลดหลั่นไปตามภูมิประเทศแสนงดงามจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก มิดยาท (Midyat) เมืองเก่าแก่บนพื้นที่เมโสโปเตเมียตอนบน ที่คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของยุคเก่าอย่างใกล้ชิดเหมือนหลุดไปในยุคโบราณ แต่ถ้าจะให้ฟินสุด คุณต้องไม่พลาดที่จะพักในโรงแรมถ้ำที่มีให้เลือกหลากหลายราคาในคัปปาโดเกีย
เที่ยวที่ไหนก็ไม่เหมือนไป ออสเตรเลีย
ประเทศที่มีสโลแกนเก๋ ๆ ว่า "ไม่มีที่ใดเหมือนออสเตรเลีย" แต่ละเมืองต่างก็มีกิมมิคของตัวเอง แต่เมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุดต้องยกให้ 2 เมืองนี้ ซิดนีย์และเมลเบิร์น นับเป็นโอกาสดีที่เงินบาทแข็งค่าแบบนี้เหมาะกับการยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง
1. เมืองซิดนีย์ มาที่นี่คุณต้องไม่พลาด ซิดนีย์ โอเปร่า เฮาส์ (Sydney Opera House) ซิกเนเจอร์ของซิดนีย์เลยก็ว่าได้ นอกจากวิวงามจับตาแล้วยังมีร้านอาหารหลายแห่งให้บริการ สะพานฮาร์เบอร์ (Harbour Bridge) แลนด์มาร์คสำคัญอีกแห่งรวมทั้งเป็นจุดชมวิวยอดเยี่ยม และถ้าไม่ได้มาเยี่ยมชมเจ้าหมีโคอาลา แสดงว่าคุณมาไม่ถึงออสเตรเลีย ที่สวนสัตว์ทารองก้า (Taronga Zoo) ยังมีสัตว์กว่า 4,000 ตัว ให้เยี่ยมชม ส่วนคอศิลปะต้องมาที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะ นิวเซาท์เวลส์ (Art Gallery of New South Wales) ที่เก่าแก่ตั้งแต่ ค.ศ. 1871 แถมยังเข้าชมฟรีด้วย
2. เมลเบิร์น ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก อัดแน่นไปด้วยธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และหาดทราย ไฮไลท์คือ เกรทโอเชี่ยนโร๊ดและเสาหินทเวลฟ์ อะพอสเซิล (Great Ocean Road and Twelve Apostles) ที่นักท่องเที่ยวต้องมา ใครที่อยากย้อนประวัติศาสตร์ต้องมาที่เหมืองทอง Sovereign Hill Ballarat เหมืองขุดทองในอดีต แล้วนั่งรถไฟไอน้ำ Puffing Billy รถไฟโบราณที่ใช้ขนถ่านหินตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 อีกแลนด์มาร์คที่ต้องไปเช็คอินคือ Bathing Box ที่หาดไบรท์ตัน เคบินเปลี่ยนเสื้อผ้าริมหาดสีสันแปลกตากว่า 82 หลัง ที่นักท่องเที่ยวต้องแวะเช็คอิน หรือจะไปตามหาเพนกวินจิ๋วที่เกาะฟิลลิป (Penguin Parade)
เยือนเมืองผู้ดีที่ต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต อังกฤษ
อังกฤษ ประเทศ Must Go ในลิสต์ของใครหลาย ๆ คน จังหวะนี้ละที่คุณน่าจะไปเที่ยว อัดแน่นไปด้วยที่น่าเที่ยวมากมาย ทั้งซิกเนเจอร์ อย่าง
หอคอยแห่งกรุงลอนดอน (Tower of London) หอคอยเก่าแก่ตั้งแต่ปี 1078 ตั้งแต่สมัยวิลเลี่ยมผู้พิชิต รวบรวมไว้ทั้งปราสาท ราชวัง คุก คลังสมบัติ ที่สำคัญว่ากันว่าผีดุ อีกหนึ่งสถานที่ประวัติศาสตร์ที่น่าไปคือ
เมืองบาธ (Bath) โรงอาบน้ำกลางแจ้งแบบโรมันอายุกว่า 2,000 ปี ที่ว่ากันว่าคือสปาแห่งแรกของโลก ส่วน
สโตนเฮนจ์ (Stonehenge) ก็ไม่ควรจะพลาดด้วยประการทั้งปวง ขณะที่
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ (British Museum) ได้เก็บรวบรวมผลงานทางประวัติศาสตร์ที่หาชมที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว อย่างโลงศพคลีโอพัตรา ต่อด้วยสถานที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ อย่าง
โบสถ์ Canterbury สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 597 งดงามและรายล้อมไปด้วยร้านอาหารมากมาย ไม่มีใครไม่รู้จัก
หอนาฬิกา Big Ben เป็นนาฬิกาบอกเวลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ใครที่อยากได้กลิ่นอายความเป็นอังกฤษที่แท้จริง ต้องไม่พลาดเมืองเล็ก ๆ ใกล้ลอนดอน
Cotswolds โรแมนติกสุด ๆ ขอบอกเลย แต่อย่างไรก็ห้ามลืมไปชักภาพคู่กับตู้โทรศัพท์สีแดงซิกเนเจอร์ของ
ประเทศอังกฤษด้วยนะ
อิ่มธรรมชาติ แคนาดา
อีกหนึ่งประเทศที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุด อุดมไปด้วยธรรมชาติงดงาม และอากาศเย็นสบายตลอดปี คุณต้องไม่พลาด Rocky Mountains ทอดยาวไปถึงประเทศสหรัฐอเมริกา มีเส้นทางขับรถชมวิวที่สวยมาก ขณะที่อุทยานแห่งชาติแบมฟ์ (Banff National Park) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Rocky Mountains ก็เป็นที่ถูกใจนักท่องเที่ยว ต้องไม่ลืมแวะ Banff Avenue เมืองเล็ก ๆ แต่มีของที่ระลึกให้เลือกชมมาก ใครที่ชอบเทพนิยายต้องไม่พลาด Lake Louise ทะเลสาปที่งดงามราวกับหลงเข้าไปดินแดนแห่งเทพนิยาย ส่วน Columbia Icefield ลานแผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่ ก็ไม่ควรพลาดให้ไปเก็บตกวิว ด้วยประการทั้งปวง แต่ใครที่ชอบเมือง แวนคูเวอร์ (Vancouver) ก็ควรค่าให้เที่ยวชม พร้อมชิมอาหารริมทะเล หรือจะไปเมืองท่าเก่าแก่ อย่าง วิกตอเรีย (Victoria) ที่งามไม่แพ้กัน มาแคนาดา แล้วไม่แวะไปที่ น้ำตกไนแอการา (Niagara Falls) น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในโลก เท่ากับคุณมาไม่ถึง
ไปกี่ทีไม่มีเบื่อ เกาหลีใต้
ประเทศยอดฮิตอันดับต้น ๆ ของคนไทย ที่ไม่ต้องใช้วีซ่า เราเชื่อว่าหลายคนอาจไปเที่ยวมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ครั้ง เกาหลีใต้มีฮิปเพลสเกิดขึ้นใหม่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งศิลปะคูล ๆ บิวตี้ไอเทมแบรนด์ดัง ศูนย์รวมของเหล่าเคป็อป และอีกมากมาย เกาหลีใต้เที่ยวได้ตลอดปี ช่วงที่นิยมสุดคือฤดูหนาว แต่ละซีซั่นก็จะมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป
Inwangsan Mountain ไปส่องธรรมชาติกับวิวหลักล้านสุดอลังการของโซล ที่ภูเขาอินวังซาน ด้วยเส้นทางเดินป่าสำหรับนักเดินทาง
Starfield Library ซิกเนเจอร์ของหนอนหนังสือโดยเฉพาะ ยังคงฮิตไม่เลิก ติ่ง
เกาหลีต้องไม่พลาด
SMTOWN Coex Artium รอแฟนคลับเคป็อปแวะไปทักทาย เพิ่มความคูลที่ Anyang Art Park สวนศิลปะสุดฮิปที่สายอาร์ตต้องไป เดินชมและถ่ายรูปสวย ๆ ได้ไม่มีเบื่อ
แลกเงินยังไงให้คุ้ม
เมื่อเลือกได้แล้วว่าจะไปเที่ยวที่ไหน ก็เตรียมแลกเงินกันดีกว่า เรามีทิปส์เล็กน้อยมาฝาก ก่อนที่จะแลกเงินควรเช็กอัตราแลกเปลี่ยนเงินจากหลาย ๆ ที่ก่อน ว่าที่ไหนให้อัตราแลกเปลี่ยนดีที่สุด เมื่อได้เรทแลกเงินที่โดนใจแล้ว หากคุณยังไม่ได้เดินทางในช่วงนี้ แต่มีแพลนที่จะไปแน่นอนแล้วละก็ ควรที่จะแลกเงินเก็บไว้เลย เพราะเมื่อถึงเวลาที่คุณต้องเดินทางอัตราแลกเปลี่ยนอาจปรับตัวขึ้นก็ได้ อีกทิปส์หนึ่งคือ ใครเคยลองใช้เทคนิคแลกเงินสกุลอื่นก่อนแล้วค่อยแลกสกุลเงินประเทศที่เราต้องการไปเที่ยวบ้างไหม มีคนบอกว่าวิธีนี้ คุณจะได้เรทเงินที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อ เช่น แลกเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนแล้วค่อยแลกเป็นเงินวอน อีกวิธีที่สะดวกไม่น้อยแล้วไม่ต้องวิ่งไปแลกเงินให้เสียเวลา คือการใช้บัตรเครดิต ซึ่งในหลายประเทศการใช้บัตรเครดิตให้เรทราคาดีกว่าการชำระด้วยเงินสดอีกด้วยนะ แต่ควรตรวจสอบอีกครั้งว่าใช้บัตรค่ายไหน คุ้มค่าสุด