เมื่อช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานั้นเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านก็คงจะเห็นตามสื่อต่าง ๆ ที่มีการเผยแพร่เกี่ยวกับยอดเงินของการเป็น ครีเอเตอร์ ออนไลน์ ที่สร้างรายได้จากการแชร์วิดีโอสั้น ๆ อย่าง คลิป Reels บนแฟลตฟอร์ม Facebook
แต่เรื่องของการหาเงินออนไลน์จากการเป็นครีเอเตอร์ ไม่ได้มีเพียงแค่ Reels แต่ยังมีช่องทางที่ได้รับความนิยมมาในช่วง 1-2 ปีมานี้ก็คือ แอปฯ TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้น ๆ ขวัญใจโลกออนไลน์นั่นเอง
แล้วถ้าวันนี้เราจะเปลี่ยนบทบาทจากคนใช้งาน มาเป็นครีเอเตอร์ หาเงินออนไลน์จากทั้ง Reels และ TikTok เราจะเริ่มต้นที่แพลตฟอร์มไหนดีถึงจะเวิร์ก และแพลตฟอร์มไหนแบ่งรายได้ให้เราเยอะที่สุด ภายในบทความนี้ เราจะพาครีเอเตอร์มือใหม่ทุกคน ไปเรียนรู้โลกของการทำคลิปวิดีโอแบบสั้น ๆ แต่ได้รับเงินตอบแทนมหาศาล ถ้าพร้อมกันแล้ว ไปดูกันเลย
1. เลือก Content ให้เหมาะ ถ้าอยากหาเงินออนไลน์
หลายคนมักพูดกันว่า หากติดกระดุมเม็ดแรกถูก เม็ดต่อไปจะถูกต้อง ไม่มีผิดเพี้ยน การหาเงินออนไลน์กับ
การทำคลิปบน Reels และ TikTok ก็เหมือนกันเพราะทั้งสองแพลตฟอร์มนี้มีไลฟ์สไตล์ของคนใช้งานที่แตกต่างกัน ยิ่งคนดูเยอะ นั่นหมายความว่าเราจะได้รับส่วนแบ่งรายได้ที่มากขึ้นนั่นเอง สำหรับทั้งสองแพลตฟอร์มนี้จะมีข้อแตกต่างดังนี้
1.1 รูปแบบ Content VDO
Reels :
สำหรับคอนเทนต์ของ Reels จะเน้นไปที่เนื้อหาที่ค่อนข้างมีสาระ และมีเรื่องราวให้ชวนติดตามจึงจะได้รับความนิยมจากผู้ใช้แพลตฟอร์ม เช่น คลิปละครสั้น หรือละครคุณธรรมที่หลายคนรู้จัก หรือจะเป็นคลิปที่เน้นวิถีชีวิตของชาวบ้านตามภูมิภาคต่าง ๆ เช่น วิถีชีวิตการหาไข่มดแดงของชาวภาคอีสาน หรือเคล็ดลับการทำสวนยางพาราของคนภาคใต้
อาจเพราะใน Facebook มีจำนวนผู้ใช้งานที่เป็นผู้ใหญ่มากกว่า Tiktok และบางคนใช้ชีวิตห่างไกลบ้านเกิด การที่มีคลิปวิดีโอแบบนี้ยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกได้เหมือนกลับบ้าน หากใครที่กำลังอยากเริ่มต้นเป็นครีเอเตอร์
หาเงินออนไลน์ในแพลตฟอร์ม Reels ลองหยิบไอเดียที่เล่นกับวิถีชีวิต หรือไลฟ์สไตล์ของผู้คน จะยิ่งสร้างฐานแฟนคลับได้ง่าย
TikTok :
สำหรับรูปแบบ Content ของแพลตฟอร์มนี้จะเน้นไปที่ความสนุกสนาน ความบันเทิงในแบบไม่ต้องคิดเยอะให้ปวดหัวเป็นส่วนใหญ่ แค่กดเข้ามาหัวเราะ สร้างรอยยิ้มก็พอ และจุดเด่นที่
ครีเอเตอร์มือใหม่ บน TikTok สามารถปั้นคลิปตัวเองให้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วก็คือ การมี Effect ทั้ง ฟิลเตอร์ภาพ หรือคลิปเสียงเพลงให้เลือกใช้มากมาย
ส่วนตัวเราเพียงแค่สร้างจุดขาย อย่างเช่น ท่าเต้นคัฟเวอร์ให้ดูตลก เฮฮา เพียงไม่นานคลิปวิดีโอของเราก็สามารถสร้างความนิยม ได้ไม่ยาก อย่างคลิปวิดีโอเพลง นกกรงหัวจุก จากเนื้อเพลงที่แปลก ผสมกับท่าเต้นของครีเอเตอร์ออนไลน์ ที่แต่ละคนสร้างสรรค์ออกมาไม่มีรูปแบบตายตัว ก็ทำให้ฮิตกันไปทั่วประเทศ หากใครอยากเป็นหาเงินออนไลน์บน TikTok แล้วล่ะก็ ทักษะการสร้างเสียงหัวเราะจำเป็นมาก ๆ แล้วจะดังได้แบบไม่รู้ตัว
1.2 งาน Production ของ VDO
Reels :
เรื่องของคุณภาพตัววิดีโอก็เป็นข้อแตกต่างกัน ในแพลตฟอร์ม Reels หากคลิปวิดีโอของเรามีลักษณะงานโปรดักชั่นที่ลงทุนสักหน่อยจะได้รับความนิยมได้ง่าย เพราะไลฟ์สไตล์ของคนที่ชอบดู Reels นอกจากเนื้อหาที่ถูกใจ ยังชื่นชอบวิดีโอที่ภาพสวย และเสียงฟังชัด อย่างที่เราได้บอกไปว่าคนดู Reels มักเป็นผู้ใหญ่ หากเป็นวิดีโอที่มีคุณภาพดีจะทำให้พวกเขาใช้เวลาดูวิดีโอ Reels ของเราได้นานขึ้น
และยิ่งคนกลุ่มนี้ใช้เวลากับผลงานเรามากเท่าไหร่ รายได้ออนไลน์ที่จะเข้ามาก็มากขึ้น ใครที่จะเริ่มต้นเป็นครีเอเตอร์ฝั่ง Reels อาจต้องลงทุนกับกล้องสักหน่อย มีหลายยี่ห้อในตลาดที่ราคาไม่แพง แต่ถ่ายวิดีโอสวย ลองหยิบมาใช้ รับรองผลงานถูกใจสาวก Reels ชัวร์ซื้อครั้งเดียวใช้ได้ยาว ๆ เลย
TikTok :
สำหรับแพลตฟอร์มนี้ ไม่จำเป็นต้องเน้นงานโปรดักชั่นที่สวยจนเกินไป เพราะไลฟ์สไตล์ของคนใช้งานชอบความเรียล ความเป็นธรรมชาติ เหมือนเพื่อนถ่ายวิดีโอส่งมาให้เราดู แต่ขอเน้นไปที่เรื่องราวที่อยากเล่าให้สนุก เฮฮา หรือเป็นเรื่องที่น่าสนใจ อย่างเช่น ถ่ายวีดีโอเล่าเรื่องขนหัวลุก หรือถ่ายคลิปเล่นมุกตลกกันง่าย ๆ
และถ้าวิดีโอของเรานั้นยาวจนเกินไป เราต้องมีสกิลการตัดต่อสักเล็กน้อย แล้วแบ่งซอยคลิปออกเป็นหลาย ๆ วิดีโอเน้นให้คนกดเข้ามาดูวิดีโอของเราไปเรื่อย ๆ ให้เขาได้ใช้เวลากับวิดีโอของเรามากที่สุด หลังจากนั้นทางอัลกอริทึมของแพลตฟอร์มจะนำเสนอวิดีโอของเราให้กับคนกลุ่มนี้เรื่อย ๆ เปิดแอปฯ ครั้งใด ก็จะเจอวิดีโอของเราทุกครั้งไป หากใครอยากเริ่มต้นเป็นครีเอเตอร์หาเงินออนไลน์ในแพลตฟอร์มนี้ ให้นำเสนอความเรียลเข้าไว้ รับรองวิดีโอของเราจะเข้าไปอยู่ในใจของชาว Tiktok แน่นอน
2. เลือกส่วนแบ่งรายได้จากแพลตฟอร์มให้เหมาะกับตัวเอง
สำหรับเรื่องของรายได้ก็เป็นปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้เราต้องเลือกว่าจะเริ่มต้นการเป็นครีเอเตอร์หาเงินออนไลน์จากแพลตฟอร์มไหน เพราะทั้งสองแพลตฟอร์มก็มีรูปแบบการสร้างรายได้ที่แตกต่างกัน
Reels :
สำหรับการสร้างรายได้จาก Reels สามารถทำได้ทั้ง Page และหน้าโปรไฟล์ส่วนตัว แต่ถ้าหากใช้งานผ่านเพจจะสามารถดำเนินการหาเงินออนไลน์ที่ง่ายกว่า โดยการเริ่มต้นหาเงินจาก Reels จะมีเงื่อนไขดังนี้
- ต้องมีการรับชมคลิปวิดีโอ Reels อย่างน้อย 1,000 ครั้งภายในช่วง 30 วัน ทางแพลตฟอร์มจะเปิดฟังก์ชั่น Reels Play ให้กับทางครีเอเตอร์ในการสร้างสรรค์ผลงาน และใช้ในการหาเงินออนไลน์นั่นเอง
รายได้ก้อนแรกที่ได้รับจะมาจากโฆษณาที่ทางแพลตฟอร์มนำมาลงในวิดีโอ Reels ของเรา โดยทางครีเอเตอร์ไม่ต้องทำอะไรเพียงแค่ลงคลิปวิดีโอให้น่าสนใจ เรียกให้คนเข้ามาดูวิดีโอเยอะ ๆ ยิ่งถ้ามีคนมาดูเยอะ วิดีโอตัวนั้นก็จะมีโฆษณามาลงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แล้วเราก็จะได้รับส่วนแบ่งจากทางแพลตฟอร์มนั่นเอง
ส่วนรายได้ก้อนต่อไปที่ครีเอเตอร์จะสามารถหาเงินออนไลน์ได้นั่นคือ การได้รับดาวจากผู้ชม โดยผู้ชมคลิปวิดีโอสามารถส่งดาวเพื่อเป็นกำลังใจให้กับครีเอเตอร์ได้ ยิ่งได้รับดาวเยอะ ก็ยิ่งได้ส่วนแบ่งเยอะ แบบที่ไม่ต้องรอโฆษณามาลงวิดีโอ Reels เราเลยก็ได้ สำหรับดาวมีมูลค่าตั้งแต่ 20-500 บาท ถ้ามีแฟนคลับถูกใจผลงานของเรา เพียงแค่ทำวิดีโอให้ปัง โดนใจผู้ชม ก็รอรับเงินไปใช้ได้แบบสบาย ๆ
TikTok :
สำหรับการหารายได้จาก TikTok จะมีด้วยกัน 3 ช่องทางหลัก ๆ โดยที่เราจะต้องเปิดใช้งานบัญชี TikTok กันเสียก่อน และมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้
- มีผู้ติดตามอย่างน้อย 1,000 คน
- ยอดวิวอย่างน้อย 100,000 ครั้งในช่วง 30 วันที่ผ่านมา
- เจ้าของบัญชีต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป และจะต้องเป็นบัญชีสาธารณะเปิดเผยได้
เงินก้อนแรกที่ครีเอเตอร์สามารถทำได้คือการคลิปวิดีโอสั้น ๆ ให้มียอดการดูที่สูงประมาณ 1 ล้านวิว จะได้รับเงินส่วนแบ่งประมาณ 700 – 1,400 บาท ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของคลิปวิดีโอ และภูมิภาคของครีเอเตอร์
เงินก้อนที่สองคือ การเปิด LIVE Streaming เพื่อให้ผู้ชมส่งของขวัญให้กับเรา สำหรับของขวัญเหล่านี้จะเป็นแบบ Virtual gift ที่มีราคาตั้งแต่ 1 Coin จนถึงประมาณ 39,999 Coin ซึ่ง Coin ในแอปฯ TikTok จะต้องมีการเติมเงินเข้าระบบ โดยที่ราคาจะตก Coin ละประมาณ 2 บาท ซึ่งถ้าเราได้ของขวัญในไลฟ์เยอะ ๆ เราก็สามารถเปลี่ยน Coin กลับมาเป็นเงินจริงเพื่อโอนเข้ากระเป๋าของเรานั่นเอง ซึ่งเงื่อนไขการเปิดฟังก์ชั่นนี้ ทางครีเอเตอร์จำเป็นต้องมีผู้ติดตามจำนวน 10,000 คนขึ้นไป
เงินก้อนที่สามครีเอเตอร์สามารถ
หาเงินออนไลน์จากการทำ TikTok Shop หรือการทำ TikTok Affiliate ซึ่งครีเอเตอร์เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าผ่านทางหน้าโปรไฟล์ของตนเองได้เลย ซึ่งถ้าหากมีคนมากดซื้อสินค้าผ่านทางหน้าบัญชีของเรา ตัวครีเอเตอร์ก็จะได้รับส่วนแบ่งรายได้ฟรี ๆ โดยที่เราไม่ต้องเสียเงินซื้อสินค้าเหล่านั้นมาสต็อก เพียงแค่นำประโยชน์จากยอดผู้ติดตาม หรือฐานคนดูของครีเอเตอร์ช่วยขายเพียงแค่นั้น รายได้ทางนี้เหมาะกับครีเอเตอร์ที่อยู่ในช่วงสร้างตัว เงินทุนน้อย หรือไม่ต้องการลงทุนที่ต้องการหารายได้นอกเหนือจากการทำคลิปวิดีโอสั้น ๆ
3. ระหว่าง Reels VS TikTok แพลตฟอร์มไหน ถอนเงินออกง่ายที่สุด
ถึงแม้จะสร้างหาเงินออนไลน์ได้อย่างมากมาย แต่ถ้านำเงินเหล่านั้นออกมาใช้ไม่ได้ก็ ไม่มีประโยชน์อะไร ทั้งสองแพลตฟอร์มก็มีเงื่อนไขในการถอนเงินที่เราหาเงินออนไลน์ แตกต่างกันเล็กน้อยดังนี้
Reels :
หากเราสามารถหาเงินออนไลน์ตรงเงื่อนไขที่ทางแพลตฟอร์มกำหนด เราสามารถถอนเงินจากทาง Reels ได้ทุก ๆ 100 ดอลลาร์ หรือ 3,500 บาทโดยประมาณ ซึ่งเราต้องใส่ข้อมูลสำหรับการทำธุรกรรมให้ถูกต้อง ไม่อย่างนั้น หากมีความผิดพลาดทางแพลตฟอร์มจะไม่รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น
หากทำครบถูกต้องเราได้จะรับเงินจากการเป็นครีเอเตอร์อยู่ที่ประมาณ 7 วันทำการ ไม่รวมวันเสาร์-อาทิตย์ หากครบ 7 วันแล้วยังไม่มีรายได้เข้ามาที่บัญชีให้ติดต่อกับทางธนาคารที่เราได้ใส่ข้อมูลการรับเงินไว้ได้เลย
TikTok :
สำหรับครีเอเตอร์ที่หาเงินออนไลน์จากแพลตฟอร์มนี้จะมีความยืดหยุ่นในการถอนเงินเพราะจำนวนยอดขั้นต่ำที่สามารถถอนออกมาได้คือต่ำสุดที่ 10 บาท และถอนเงินได้มากสุดที่ 2 ล้านบาท โดยทุกยอดการทำธุรกรรมจะมีค่าธรรมเนียมที่น้อยมาก ๆ สำหรับครีเอเตอร์สามารถเข้าไปถอนเงินได้ที่หน้าโปรโฟล์บัญชีของเรา และทำธุรกรรม โดยใส่ข้อมูลเลขบัญชีธนาคารให้ถูกต้อง กรอกเสร็จก็รอเงินโอนจากแพลตฟอร์มได้ไม่เกิน 1 วันทำการ รวดเร็วสุด ๆ ไปเลย
นี่ก็เป็นข้อมูลดี ๆ สำหรับใครที่อยากก้าวเข้ามาเป็นครีเอเตอร์หาเงินออนไลน์ ซึ่งก็สามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาเปรียบเทียบว่าจะเป็นครีเอเตอร์ในฝั่ง Reels หรือ TikTok แบบไหนเข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเองมากกว่ากัน
บอกได้เลยว่าด้วยไลฟ์สไตล์ของผู้ในปัจจุบันที่ต่างก็หันเล่นโซเชียลมีเดียกันมากขึ้น จึงทำให้อาชีพครีเอเตอร์ นั้นกำลังเป็นที่นิยม และน่าสนใจอย่างมาก เพราะสามารถหาเงินออนไลน์ได้ทุกเวลา ขอแค่มีไอเดีย และกล้องสมาร์ทโฟนก็เริ่มต้นหาเงินออนไลน์เป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่งเลย
หากใครชอบเรื่องราวดี ๆ แบบนี้ ก็อย่าเก็บเอาไว้คนเดียวสามารถแชร์ให้เพื่อน ๆ ใกล้ตัวได้เลย และก็อย่าลืมติดตามบทความใหม่ ๆ จากเรา จะได้ไม่พลาดทุกเทรนด์ที่น่าสนใจ อย่าลืมติดตามน้าา~
ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก