ตลอดระยะเวลา 70 ปีที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงครองราชย์ พระองค์ทรงงานหนัก เสียสละความสุขส่วนตน โดยมีเป้าหมาย คือมุ่งหวังให้ประชาชนชาวไทยอยู่ดี กินดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี พระองค์ทรงไม่ย่อท้อและเอาชนะทุกอุปสรรค สิ่งเหล่านี้พิสูจน์ให้เราเห็นผ่านทุกโครงการพระราชดำริ พระราชดำรัส พระบรมราโชวาท ตลอดจนพระจริยวัตรที่งดงามและเรียบง่ายของพระองค์
วันนี้เราขออัญเชิญพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมาเพื่อเป็นกำลังใจ แรงบันดาลใจ และ
แนวทางในการดำเนินตาม “คำสอนของพ่อ” ไปสู่ความสำเร็จในเป้าหมายแห่งชีวิต
1. กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน
"การทำงานใด ๆ ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ควรอย่างยิ่งที่จะตั้งเป้าหมาย ขอบเขต และหลักการไว้ให้แน่นอน เพราะจะช่วยให้สามารถปฏิบัติมุ่งเข้าสู่ผลสำเร็จได้โดยตรงและถูกต้องพอเหมาะพอดี เป็นการป้องกันและขจัดความล่าช้า ความสิ้นเปลือง ความเสียเปล่า ทุกอย่างได้อย่างสิ้นเชิง"
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 17 กรกฎาคม 2530
ตามคำสอนของพ่อ การทำงานใด ๆ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ต้องตั้งเป้าหมาย ขอบเขต และหลักการที่ชัดเจนไว้ก่อน "คำสอนของพ่อ" ชี้ให้เห็นว่า การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนช่วยให้เรามุ่งเข้าสู่ความสำเร็จโดยตรงและถูกต้อง อีกทั้งยังช่วยป้องกันความล่าช้าและความเสียเปล่าที่อาจเกิดขึ้น
2. คิดให้รอบคอบและรอบด้าน
"เมื่อจะเริ่มงานสิ่งใด ให้พยายามคิด พิจารณาให้เห็นจุดหมาย เห็นสาระ และประโยชน์ที่แท้จริงของงานนั้นอย่างแจ่มแจ้ง แล้วจึงลงมือทำด้วยความตั้งใจ มั่นใจ ด้วยความรับผิดชอบอย่างสูง ให้ดำเนินลุล่วงตลอดไปอย่างต่อเนื่อง โดยมิให้บกพร่องเสียหาย"
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยมหิดล วันที่ 5 กรกฎาคม 2533
"คำสอนของพ่อ" แนะนำว่าก่อนลงมือทำงาน ควรคิดและพิจารณาให้รอบคอบ เห็นเป้าหมายและประโยชน์ของงานนั้นอย่างชัดเจน เมื่อมั่นใจแล้วให้ลงมือทำด้วยความตั้งใจมั่นใจและความรับผิดชอบสูง ตามคำสอนของพ่อ จะช่วยให้เราทำงานได้อย่างต่อเนื่องและไม่บกพร่อง
3. ยอมรับและเรียนรู้ที่จะปรับปรุงตนอย่างไม่ย่อท้อ
“การดำรงชีวิตที่ดีจะต้องปรับปรุงตัวตลอดเวลา การปรับปรุงตัวจะต้องมีความเพียรและความอดทนเป็นที่ตั้ง ถ้าคนเราไม่หมั่นเพียร ไม่มีความอดทน ก็อาจจะท้อใจไปโดยง่าย เมื่อท้อใจไปแล้ว ไม่มีทางที่จะมีชีวิตเจริญรุ่งเรืองแน่ ๆ”
พระราชดำรัส พระราชทานแก่ครูและนักเรียน โรงเรียนจิตรลดา วันที่ 27 มีนาคม 2523
คำสอนของพ่อสอนให้เราต้องปรับปรุงตัวอยู่เสมอ ด้วยความเพียรและความอดทน หากเราขาดความเพียรและอดทน เราอาจจะท้อใจและไม่สามารถดำเนินชีวิตอย่างรุ่งเรืองได้ คำสอนของพ่อยังเตือนให้เรารู้ว่าการปรับปรุงตัวนั้นสำคัญเพียงใด
4. เปิดรับทุกโอกาสและลงมือปฏิบัติ
“เมื่อมีโอกาสและมีงานทำ ควรเต็มใจทำโดยไม่จำเป็นต้องตั้งข้อแม้ หรือเงื่อนไขอันใดไว้ให้เป็นเครื่องกีดขวาง คนที่ทำงานได้จริง ๆ นั้น ไม่ว่าจะจับงานสิ่งใด ย่อมทำได้เสมอ ถ้ายิ่งมีความเอาใจใส่ มีความขยัน และความซื่อสัตย์สุจริต ก็ยิ่งจะช่วยให้ประสบผลสำเร็จในงานที่ทำสูงขึ้น”
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา วันที่ 8 กรกฎาคม 2530
ตามคำสอนของพ่อ เน้นว่า คนที่ทำงานได้จริงๆ จะทำงานได้ดีเมื่อมีความเอาใจใส่ ขยัน และซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จสูงขึ้น
5. เตรียมพร้อมตั้งรับกับทุกปัญหา
“…วิถีชีวิตมนุษย์นั้น จะให้มีแต่ความปรกติสุขอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องมีทุกข์ มีภัย มีอุปสรรค ผ่านเข้ามาด้วยเสมอ ยากจะหลีกเลี่ยงพ้น ข้อสำคัญอยู่ที่ทุก ๆ คนจะต้องเตรียมกาย เตรียมใจ และเตรียมการไว้ให้พร้อมทุกเวลา เพื่อเผชิญและแก้ไขความไม่ปรกติเดือดร้อน (ทั้ง) นั้นด้วยความไม่ประมาท ด้วยเหตุผล ด้วยหลักวิชา และด้วยสามัคคีธรรม จึงจะผ่อนหนักให้เป็นเบาและกลับร้ายให้กลายเป็นดีได้…”
พระราชดำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทยในโอกาสขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2528 วันจันทร์ ที่ 31 ธันวาคม 2527
คำสอนของพ่อเตือนว่า ชีวิตมนุษย์ไม่สามารถมีแต่ความสุขได้ตลอด จะต้องเผชิญกับความทุกข์และอุปสรรค คำสอนของพ่อให้เราเตรียมกาย ใจ และการทำงานให้พร้อมเสมอเพื่อเผชิญและแก้ไขปัญหาด้วยความไม่ประมาทและสามัคคี
6. รู้จักประมาณตน อย่าฝืนจนล้ม
“การรู้จักประมาณตน คือ การรู้จักและยอมรับว่าตนเองมีภูมิปัญญาและความสามารถด้านไหน เพียงใด และควรจะทำงานด้านไหน อย่างไร การรู้จักประมาณตนนี้ จะทำให้คนเรารู้จักใช้ความรู้ความสามารถที่มีอยู่ได้ถูกต้อง เหมาะสมกับงาน และได้ประโยชน์สูงสุดเต็มตามประสิทธิภาพ ทั้งยังทำให้รู้จักขวนขวายศึกษาหาความรู้ และเพิ่มพูนประสบการณ์อยู่เสมอ เพื่อปรับปรุงส่งเสริมศักยภาพที่มีอยู่ในตนเองให้ยิ่งสูงขึ้น”
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 18 กรกฎาคม 2541
คำสอนของพ่อเน้นถึงความสำคัญของการรู้จักประมาณตน ว่าเรามีความสามารถเพียงใดและควรทำงานในด้านใด คำสอนของพ่อช่วยให้เรารู้จักใช้ความรู้และประสบการณ์อย่างถูกต้องและเหมาะสม เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด
7. อย่าหยุดหาความรู้
“ความรู้ในวิชาการ เป็นสิ่งหนึ่งที่จะทำให้สามารถฟันฝ่าอุปสรรคได้ และทำให้เป็นคนที่มีเกียรติ เป็นคนที่สามารถ เป็นคนที่จะมีความพอใจได้ในตัวว่า ทำประโยชน์แก่ตนเองและแก่ส่วนรวม นอกจากวิชาความรู้ ก็จะต้องฝึกฝนในสิ่งที่ตัวจะต้องปฏิบัติให้สอดคล้องกับสังคม สอดคล้องกับสมัย และสอดคล้องกับศีลธรรมที่ดีงาม ถ้าได้ทั้งวิชาการ ทั้งความรู้รอบตัว และความรู้ในชีวิต ก็จะทำให้เป็นคนที่ครบคน ที่จะภูมิใจได้”
พระบรมราโชวาท พระราชทานเนื่องในโอกาสวันปิดภาคเรียนของโรงเรียนจิตรลดา วันเสาร์ ที่ 25 มีนาคม 2515
คำสอนของพ่อย้ำถึงความสำคัญของการศึกษาและหาความรู้อย่างต่อเนื่อง นอกจากวิชาความรู้ที่เราต้องมีแล้ว คำสอนของพ่อยังเตือนให้เราฝึกฝนในสิ่งที่เราต้องปฏิบัติให้สอดคล้องกับสังคมและศีลธรรมที่ดีงาม
ทุกพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ล้วนแต่ทรงคุณค่า เป็นทั้งหลักคิดและหลักปฏิบัติให้พสกนิกรชาวไทยได้น้อมนำไปปรับใช้ทั้งในหน้าที่การงาน และชีวิตส่วนตัว หากคุณกำลังเผชิญอุปสรรคระหว่างทางจนเกิดความทดท้อใจ ไม่รู้จะเดินไปทางไหนดี ลองนำ “คำสอนของพ่อ” มาเป็นแสงสว่างนำทางชีวิตของคุณ คำสอนของพ่อไม่เพียงแต่เป็นคำแนะนำที่เป็นกลางในการดำเนินชีวิต แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับจิตใจของคนไทยเสมอมา
ขอบคุณข้อมูลจาก
ศูนย์บริหารกลาง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7