ช่วงนี้วันหยุดเยอะซะด้วยสิ คงต้องจัดแพลนเที่ยวหน่อยแล้ว แต่ถ้าจะไปเที่ยวแต่ต้องทิ้งน้องหมาแมวไว้ที่บ้าน น้อง ๆ คงเหงาน่าดู สำหรับทาสหมาแมวจะออกไปเที่ยวแต่ละครั้งต้องทำใจมาก ๆ เพราะปกติไม่ว่าสถานที่ท่องเที่ยว คาเฟ่ หรือโรงแรมมักมีกฎข้อห้ามพาหมาแมวเข้า แต่ตอนนี้ใครอยากพาน้อง ๆ หมาแมวไปตะลุยท่องเที่ยว ไม่ต้องกลัวอีกต่อไป เพราะมีหลายที่ต้อนรับน้องหมาแมว อย่างดี เรียกได้ว่า
Pet Friendly สุด ๆ
วันนี้เราขอเอาใจแฟนคลับน้องหมาแมวกันหน่อยด้วยการเปิดวาร์ปสถานที่ท่องเที่ยวเป็นมิตรกับ
สัตว์เลี้ยงแสนรัก ถ้าอยากรู้ว่าจะมี
ที่เที่ยวไหนสำหรับน้องหมาแมวของเราบ้าง เตรียมกระบะทราย อาหารเปียก สายจูง และพาน้องหมาแมวไปพร้อมกับเราเลย
ขอขอบคุณรูปภาพจาก chillpainai.com
1. อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ (CU Centenary Park) จ.กรุงเทพฯ
สำหรับเจ้าของน้องหมาแมว บางคนก็อยากพาลูก ๆ ไปสถานที่ใกล้ ๆ มีที่จอดรถแบบสะดวก ไม่อยากจะห่างบ้านนาน ๆ สวนสาธารณะในกรุงเทพฯ ที่ให้น้องหมาแมวเข้าก็มีเยอะเหมือนกัน อุทยาน 100 ปี จุฬา มีขนาดใหญ่มากถึง 28 ไร่ เป็นสวนที่ผู้คนนิยมพาน้องหมาแมวมากันในตอนเช้าหรือช่วงเย็น ๆ ไม่ค่ำมาก เพราะคนจะนิยมมาวิ่ง หรือเดินออกกำลังกายกัน หลายคนเลยพาน้อง ๆ มาสูดอากาศบริสุทธิ์ เดินรอบสวนสัก 3-4 รอบ กำลังดี เหมาะมากที่จะพาน้องหมาแมวเดินสูดอากาศกันในวันสบาย ๆ
ในช่วงเย็นรอบอุทยาน 100 ปีจุฬา ยังเต็มไปด้วยร้านอาหารชื่อดัง สตรีทฟู๊ดเด็ด ๆ อยู่บริเวณถนนบรรทัดทอง ที่ตั้งของอุทยาน 100 ปี จุฬา ให้เจ้าของน้องหมาแมว ได้ช้อปอาหารกลับไปทานที่บ้าน สำหรับใครที่อยากพาน้องหมาแมวมาเดินเล่นที่นี้ ข้อสำคัญเราต้องมีสายจูงนะ ไม่อย่างนั้นน้องหมาแมวอาจวิ่งหลง ลงไปบนถนนใหญ่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุกับน้องหมาแมวได้ หากใครกำลังมองหาสวนสวย ๆ พาสัตว์เลี้ยงวิ่งเล่นได้ และมีอาหารอร่อยให้แวะช้อปกลับบ้าน อุทยาน 100 ปี จุฬา ไม่ผิดหวังแน่นอนทั้งน้องหมาแมว แล้วคุณเจ้าของ
ที่อยู่/การเดินทาง: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซอยจุฬาลงกรณ์ 5 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 หรือเปิด Google Map ค้นหาคำว่า “อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ” ขับมาตามแผนที่ได้เลย
เวลาเปิด-ปิด: 05.00-22.00 น. ทุกวัน
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น: ค่าเข้าสวน ฟรี แต่จะมีค่าจอดรถ ชั่วโมงละ 20 บาท
ขอขอบคุณรูปภาพจาก homezoomer.com
2. Sansiri Backyard T77 Community จ.กรุงเทพ ฯ
มาต่อกันที่สถานที่ถัดมากับรรยากาศฟาร์มสุดกรีนที่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ คอมมูนิตี้ที่มีฟาร์มผัก ตลาดต้นไม้ และสวนแกะ พร้อมต้อนรับน้องหมาแมวให้ไปเที่ยว เนื่องจากสถานที่ค่อนข้างกว้างมีพื้นที่ให้
สัตว์เลี้ยงได้วิ่งเล่นอย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะน้องหมาบางสายพันธุ์ที่ชอบวิ่งเล่นอย่าง ปอมเมอเรเนียน หรือเวลช์ คอร์กี้ ที่นี่เหมาะเลย หรือถ้าใครอยากพาน้องแมวมาเดินเล่นก็ดีเพราะตัว
คอมมูนิตี้มีความร่มรื่น ต้นไม้เยอะทำให้อากาศโดยรวมค่อนข้างเย็นสบาย มีลมพัดตลอด หมดห่วงเรื่องปัญหาเจอสภาวะฮีทสโตรก แต่ก็อย่าลืมพกน้ำไปให้น้อง ๆ หมาแมวเพื่อความปลอดภัยด้วยนะ
ที่อยู่/การเดินทาง: 91 ซ.ริมคลองพระโขนง แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 หรือเปิด Google Map ค้นหาคำว่า “Sansiri Backyard T77 Community” ขับมาตามแผนที่ได้เลย
เวลาเปิด-ปิด: 08.00-20.00 น. ทุกวัน
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น: ฟรี ไม่มีค่าบริการ
ขอขอบคุณรูปภาพจาก 3 ป๊อก รีสอร์ท เชียงใหม่ - แม่วางจินเซียง
3. 3 ป๊อก รีสอร์ต จ.เชียงใหม่
มาต่ออีกที่อันนี้จะเป็นประเภทที่พัก รีสอร์ตที่เหมาะกับพาน้องหมาแมวไปพักผ่อน สำหรับรีสอร์ตแห่งนี้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เวลาขับรถไม่นาน นอกจากบรรยากาศธรรมชาติ ยังมีน้ำตก และปางช้างให้เราได้ถ่ายรูป หรือใช้เวลาพักผ่อนหย่อนใจกันได้ตามใจ นอกจากบรรยากาศดี ๆ เหล่านี้ ห้องพักก็สวยงามไม่แพ้กันทั้งแบบโฮมสเตย์ บ้านพักริมน้ำ หรือแบบกระโจมขนาดใหญ่ สำหรับน้องหมาแมวสามารถเข้าพักได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ได้หมดเลยทั้งน้องหมาแมวขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ อย่างประเภท โกลเดินริทรีฟเวอร์ หรือแมวสายพันธุ์เมนคูน ก็สามารถพาน้อง ๆ มาเข้าพักได้ ใครที่กำลังอยากมาสัมผัสลมหนาวที่ภาคเหนือ รีสอร์ตแห่งนี้ตอบโจทย์คนรักหมาแมวได้ดีเลย
ที่อยู่/การเดินทาง: ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง เชียงใหม่ 50360 เปิด Google Map ค้นว่า “3pok resort (Maewang Jinxing)” ขับมาตามแผนที่ได้เลย
เวลาเปิด-ปิด: 24 ชั่วโมง ทุกวัน
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น: เริ่มต้นที่ 2,500 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดห้องพัก
ขอขอบคุณรูปภาพจาก food.trueid.net
4. Bucolic Khaoyai จ.นครราชสีมา
ที่เที่ยวต่อมาเอาใจทาสหมาแมวที่เป็นสายคาเฟ่กันสักหน่อย กับ Bucolic khaoyai คาเฟ่สุดชิคที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียวเอกลักษณ์ของเขาใหญ่ที่หากใครเคยได้มาต้องคุ้นชิน ในบริเวณคาเฟ่ทางร้านมีให้บริการทั้งโซน Indoor และ Outdoor เหมาะกับการพาน้องหมาแมว มาสูดอากาศบริสุทธิ์ และพาน้องวิ่งเล่นกับพื้นที่กว้าง ๆ นอกจากวิวที่ดี อาหาร เบเกอรี่ และเครื่องดื่ม คาเฟ่แห่งนี้ก็บรรยากาศดีไม่แพ้กัน และจุดไฮไลท์ไม่ควรพลาดคือ โซนสวน ที่เราสามารถนำใบเสร็จค่าอาหารหรือเครื่องดื่มมาแลกเป็นบัตรเข้าชมได้ สำหรับโซนนี้มีบรรยากาศชิล ๆ เห็นภูเขาอยู่ไม่ไกล มีสนามหญ้าให้น้องหมาแมวได้ผ่อนคลาย หรือจะพาน้อง ๆ ไปให้อาหารน้องเต่า และน้องกระต่ายที่อยู่ในโซนสวนก็ทำได้ แต่ระวังนิดนึงควรให้น้องหมาแมว สวมสายจูง หรืออยู่ในกระเป๋า เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ เพราะเราไม่รู้ว่า น้อง ๆ จะมีอาการขู่สัตว์หรือไม่
หากใครที่วันหยุดมีน้อย อยากใช้เวลากับน้องหมาน้องแมวแบบคุ้มค่า การเลือกมาที่เขาใหญ่ และลองเข้ามาใช้บริการที่คาเฟ่แห่งนี้ ก็ช่วยชาร์จความสดชื่นทั้งเจ้าของ และน้องหมาน้องแมวได้อย่างดีเลย
ที่อยู่/การเดินทาง: 11 หมู่ที่ 8 ตําบลหมูสี อำเภอปากช่อง นครราชสีมา 30450 เปิด Google Map ค้นว่า “Bucolic Khaoyai” ขับมาตามแผนที่ได้เลย
เวลาเปิด-ปิด: 09.00-17.00 น. ทุกวัน
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น: เริ่มต้นเมนูละ 101-250 บาท ขึ้นอยู่เมนูที่เลือก
5. เขาช่องลม เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก
ที่สุดท้ายที่เราอยากแนะนำเจ้าของน้องหมาแมว นั้นอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ขับรถไป 2 ชั่วโมงนิด ๆ ก็ถึงแล้วกับ เขาช่องลม สถานที่พักผ่อนสุดกรีนมีทั้ง ภูเขา ทุ่งหญ้าสวย ๆ และลำธาร ให้ทั้งหมาแมว และเจ้าของได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เพราะหันไปมุมไหนก็ถ่ายรูปสวย นอกจากบรรยากาศ ที่เขาช่องลมยังมีบริการท่องเที่ยวที่หลายคนชื่นชอบนั่นคือ การล่องเรือชมความสวยงามของเขื่อนขุนด่านปราการชล แต่ทางขึ้น-ลงเรือนำเที่ยว ต้องใช้เวลาสักหน่อย ถ้าหากไปช่วงที่อากาศร้อนอาจต้องพกน้ำดื่มทั้งตัวเราและของน้องหมาแมวด้วยนะ ไม่งั้นเสี่ยงภาวะฮีทสโตรกได้ แต่ถ้าใครไม่อยากเหนื่อยล่องเรือ อยากถ่ายรูปสบาย ๆ ต้องไม่พลาดลำธารช่วงจุดต้นน้ำ ที่มีลักษณะเป็นรูปตัว S จุดนี้จะถ่ายมุมไหน ก็ถูกใจสายโซเชียลอย่างแน่นอน สำหรับเจ้าของน้องหมาแมวที่วางแผนจะไปเที่ยวที่เขาช่องลมอาจต้องวางแผนสักนิด เพราะในช่วงวันหยุดจะมีนักท่องเที่ยวค่อนข้างมาก ถ้าจะพาน้อง ๆ สัตว์เลี้ยงไปด้วยให้หลีกเลี่ยงไปช่วงวันธรรมดาดีกว่า ลาพักร้อนไปสักวัน คนน้อย ๆ แถมน้องหมาแมวไม่อึดอัดจากปริมาณคนด้วย
ที่อยู่/การเดินทาง: บ้านท่าด่าน ตำบลหินตั้ง อำเภอเมืองนครนายก นครนายก 26000 เปิด Google Map ค้นว่า “ เขื่อนขุนด่านปราการชล” ขับมาตามแผนที่ได้เลย
เวลาเปิด-ปิด: 08.00-18.00 น. ทุกวัน
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น: น้องหมาแมวเข้าฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่จะมีค่าบริการล่องเรือ คนละ 200 บาท แต่ถ้าเหมาเรือจะราคา 1,500 บาท ถ้าเกิน 8 คนคิดเพิ่มคนละ 200 บาท
นอกจากเรื่อง
ที่เที่ยว ที่พักสำหรับหมาแมวแล้ว การเตรียมตัวให้น้อง ๆ ก่อนออกจากบ้านเราต้องพร้อมด้วยโดยสิ่งที่เราต้องเตรียมให้พร้อมมีดังนี้
3 สิ่งที่ควรเตรียมให้พร้อม! ก่อนพาน้องหมาแมวออกไปเที่ยว
- สายจูง นอกจากประโยชน์ที่เราเอามาใช้ให้น้องเดินนำทางเรา ยังเป็นของช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้น้องหมาแมวอีกด้วย เพราะการออกไปนอกบ้าน ไปในสถานที่เปิด บางทีน้องอาจตกใจ หรือเตลิดจากเสียงดัง หรือคนไม่หวังดีมาแกล้ง สายจูงจะทำให้น้องปลอดภัย อยู่ในสายตาเราตลอดเวลา
- ชามข้าว ชามน้ำ ถึงที่พัก ที่เที่ยวจะเปิดต้อนรับน้องหมาแมว แต่ไม่ใช่ทุกที่จะมีความพร้อมมีอุปกรณ์ทานข้าวให้กับน้อง โดยเฉพาะบางตัวก็ต้องใช้ชามของที่เคยใช้ประจำถึงจะยอมทาน หากเป็นของที่ไม่คุ้นเคย จะทำให้น้องเครียด อดข้าว อดน้ำ จากที่พาไปเที่ยวให้มีเรื่องดี ๆ จะกลายเป็นผลเสียกับน้องหมาแมวมากกว่า
- ถุงเก็บอึ หรือกระบะทรายพกพา อีกเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญเพราะน้องหมาแมว ต้องขับถ่ายบางสถานที่อาจไม่พร้อมในการขับถ่ายเราจึงต้องเตรียมอุปกรณ์ขับถ่ายของน้อง ๆ ไปเอง หากเป็นน้องหมาก็ง่ายหน่อยเพราะใช้ถุงเก็บอึ พกไปได้เลย แต่ถ้าน้องแมวอาจต้องใช้ตัวกระบะทราย เพราะน้องแมวจะชินกับการเข้าห้องน้ำ คุ้ยทรายทำธุระเสร็จแล้วฝังกลบ การมีกระบะทรายส่วนตัวช่วยให้น้องแมวสะดวกสบายกับการขับถ่ายมากยิ่งขึ้น อันนี้ต้องมี ห้ามลืมเลยนะ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับที่พัก ที่เที่ยวสำหรับน้องหมาแมวที่เราได้รวบรวมมาให้ นี่เป็นสถานที่ส่วนน้อย ยังมีอีกหลายที่เหมาะพาน้องหมาแมวไปเที่ยว แต่ถ้าจะพาน้อง ๆ ไปเที่ยวเปิดโลกเราควรหาข้อมูล หรือสอบถามก่อนว่าเปิดให้
สัตว์เลี้ยงเข้าได้หรือเปล่า ไม่อย่างนั้นการไปเที่ยวของเราจะสร้างความเดือดร้อนให้กับเจ้าของพื้นที่ หรือนักท่องเที่ยวคนอื่น หากใครชอบบทความนี้ ก็สามารถแชร์ไปให้เพื่อน ๆ ที่อยากพาน้องหมาแมวไปเที่ยว ให้อ่านเพื่อเป็นไอเดียได้นะ เพราะถ้าได้ออกไปเที่ยวทั้งที ไม่ว่าใครก็อยากพาสัตว์เลี้ยงที่เรารักไปด้วยกันทั้งนั้นแหละ มันดีต่อใจมากกว่าไปเที่ยวคนเดียวจริง ๆ