ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน โครงการพระราชดำริเพื่อพัฒนาป่าชายเลน

ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน โครงการพระราชดำริเพื่อพัฒนาป่าชายเลน

By Krungsri Guru

เมื่อป่าชายเลนเป็นได้มากกว่าต้นไม้ แต่ยังส่งผลครอบคลุมถึงระบบนิเวศน์ การจัดการอย่างยั่งยืนตามแนวพระราชดำริ จึงเปลี่ยนอ่าวคุ้งกระเบนให้กลายเป็นทั้งพื้นที่แหล่งเรียนรู้และที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทย

 
khung-kraben-mangrove-forest-learning-tourism.jpg
เครดิตภาพ: วารสารโดยสำนักงาน กปร.

อีกหนึ่งโครงการของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่แสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพ และความห่วงใยที่พระองค์ทรงมีต่อราษฎรในพื้นที่ต่าง ๆ นั่นก็คือ "ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน"
 
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน สร้างขึ้นเพื่อทำการฟื้นฟูและจัดการทรัพยากรชายฝั่งหรือป่าชายเลนอย่างยั่งยืน ตั้งอยู่ที่อ่าวคุ้งกระเบน ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี มีเนื้อที่รอบชายฝั่งประมาณ 2,000 ไร่ และถ้ารวมพื้นที่รอบนอกในเขตตำบลคลองขุด ตำบลสนามไชย และพื้นที่ใกล้เคียงที่เป็นเขตหมู่บ้านประมงตลอดแนวชายฝั่งทะเล อีกทั้งเขตเกษตรกรรมแล้ว ก็จะมีพื้นที่ราว 32,000 ไร่

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วป่าชายเลนมีความสำคัญและมีประโยชน์ต่อระบบนิเวศน์อย่างมาก เพราะเป็นพื้นที่ป่าที่มีพืชพันธุ์ต่าง ๆ ที่สามารถนำไปทำฟืนที่มีคุณภาพดี หรือใช้ทำหมึก สีกาว และสารฟอกหนังได้เช่นกัน

ส่วนในมุมมองด้านการประมงนั้น จะสามารถมองเห็นได้ค่อนข้างชัดเจนว่าป่าชายเลนคือแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์กุ้งและปลาสายพันธุ์ต่าง ๆ เพราะบริเวณป่าชายเลนจะมีคลื่นไม่แรงมาก ทำให้สัตว์น้ำตัวเล็ก ๆ สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ และเศษกิ่งไม้และใบไม้ต่าง ๆ ในผืนป่าแห่งนี้ ก็เป็นแหล่งอาหารชั้นดีให้กับสัตว์น้ำตัวเล็ก ๆ เหล่านี้ด้วย

นอกจากนี้ ป่าชายเลนก็ยังช่วยลดความแรงของคลื่นที่เข้ามากระทบชายฝั่งได้เป็นอย่างดี เพราะแรงกระแทกของคลื่นจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับที่อยู่อาศัยริมน้ำได้ อีกทั้งป่าชายเลนยังช่วยกรองของเสียก่อนลงสู่ทะเลได้บางส่วน ทำให้ของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมไหลลงสู่ทะเลน้อยลง

แต่ด้วยภาวะปัจจุบันที่พื้นที่ป่าชายเลนลดน้อยลงมาก เพราะมีการบริโภคและมีความต้องการมากจนเกินไป สาเหตุที่สำคัญคือการตัดไม้ทำลายป่า เพราะพืชพันธุ์บริเวณป่าชายเลนนั้นสามารถนำไปใช้ทำฟืนได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนเพื่อทำฟาร์มกุ้งต่าง ๆ รวมทั้งเรื่องหนึ่งที่น่ากังวล คือ การอนุรักษ์ป่าชายเลนนั้นยังทำไม่ได้อย่างต่อเนื่อง จึงยากที่จะกลับมาอุดมสมบูรณ์ได้เหมือนเดิม
 
ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงเห็นความสำคัญของป่าชายเลน จึงมีพระราชดำริในการจัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน ซึ่งเป็นศูนย์การอบรมและเผยแพร่ความรู้ที่ได้จากการศึกษาวิจัย เพื่อช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนบริเวณนั้นให้ดีขึ้น และช่วยพัฒนาอาชีพประมงขั้นพื้นฐาน ตลอดจนพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งทะเลให้มีผลผลิตที่มากขึ้นด้วย
 
ปัจจุบันศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนเป็น “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต” แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ให้ความรู้กับผู้คนที่มาเยี่ยมชม เพื่อสร้างความเข้าใจและมองเห็นความสำคัญของป่าชายเลนให้มากขึ้น ทั้งยังเป็นที่ท่องเที่ยวอีกที่หนึ่งที่น่าสนใจมาก เพราะการที่เราได้เห็นสัตว์และพืชพันธุ์ต่าง ๆ ที่เราไม่มีโอกาสเห็นในชีวิตประจำวันนั้น ถือเป็นการเปิดโลกของการเรียนรู้ใหม่ ๆ ได้เป็นอย่างดี
 
ขอบคุณข้อมูลจาก: -
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา