ใครติด Instagram Reels ยกมือขึ้น! หลังจาก Instagram ได้ปรับตัวเองให้เข้ากับเทรนด์คอนเทนต์ที่เป็น video based มากขึ้นตั้งแต่ปี 2020 เราก็ได้เห็นการเติบโตของ Reels มากขึ้นทุกวัน และทาง Instagram เองก็หันมาให้พื้นที่ใน Feed กับคอนเทนต์วิดีโอแทนที่ภาพนิ่ง จนขัดใจผู้ใช้งานหลาย ๆ คน แต่สำหรับใครที่ก็ชอบและอยากปรับตัวทำคอนเทนต์ Instagram Reels แต่ทำยังไงก็ได้ยอดวิวไม่ถึงเป้าสักที วันนี้จูนรวม 5 วิธีง่าย ๆ เพิ่มยอด Instagram Reels มาแชร์กันค่ะ!
1. อย่าสองใจ!
เรารู้กันดีว่าแพลตฟอร์มที่นำร่องให้คอนเทนต์แบบวิดีโอสั้น
ติดเทรนด์ขึ้นมาได้ก็คือ TikTok นี่แหละ จนทำให้ Instagram และโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มอื่น ๆ ต้องแอบทำตาม และผู้ใช้งานหลายคนก็ตัดสินใจเอาคอนเทนต์วิดีโอของตัวเองจาก TikTok มาใช้ซ้ำใน Instagram Reels ซึ่งเราบอกเลยว่า ไม่ควร! เพราะ Instagram มีระบบ AI ที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพมากทีเดียว และมันสามารถตรวจจับลายน้ำโลโก้ของ TikTok หรือแอปพลิเคชันอื่น ๆ ได้ ซึ่งจะทำให้ Reach ของวิดีโอที่เราใช้ซ้ำนั้นต่ำลง
เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะใช้วิดีโอเดียวกันใน 2 แพลตฟอร์ม เราแนะนำให้นำไฟล์วิดีโอต้นฉบับมาตัดต่อใหม่ในแต่ละแอปพลิเคชันเลยจะดีกว่า
2. ยิ่งสั้นยิ่งดี!
แรกเริ่มแล้ว Instagram Reels มีความยาวตอนเปิดตัวใหม่ ๆ อยู่ที่ไม่เกิน 15 วินาที จากนั้นไม่นานก็ปรับมาที่ 30 วินาทีภายหลัง แต่ในปัจจุบัน Instagram Reels เพิ่มความยาววิดีโอสูงสุดถึง 90 วินาที เพื่อให้ผู้ใช้งานนำเสนอคอนเทนต์กันได้ยาว ๆ อย่างไรก็ตาม Reels ที่ดีก็ควรกระชับและสั้นเข้าไว้ เพราะ
“Attention Span” ของผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 8 วิเท่านั้น!
ในบางครั้งการที่ Reels สั้นมาก ๆ ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสที่ผู้ใช้งานจะดูซ้ำใหม่อีกครั้งโดยอัตโนมัติ แต่หากตัวคอนเทนต์ของเราต้องใช้เวลานำเสนอมากหน่อย ก็ควรตัดต่อให้ Reels นั้น ๆ ดึงดูดความสนใจได้ภายใน 10 วินาทีแรกนั่นเอง
3. *TRENDING*
ข้อนี้ถือว่าเป็นเคล็ดลับข้อสำคัญที่สุดในการเพิ่มยอดวิวให้
Instagram Reels เลยก็ว่าได้ เพราะแม้ผู้ใช้งานจะถ่ายวิดีโอที่มีคุณภาพที่ดี ตัดต่อได้สมบูรณ์แบบ แต่ถ้าหากใช้ ‘เสียง’ หรือ ‘เพลง’ ที่ไม่ติดเทรนด์ reels นั้นก็อาจจะแป้กได้นะ! เสียงหรือเพลงที่ว่าจะต้องเป็น Trending Song ในช่วงเวลานั้น ๆ จะยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสที่ Instagram จะแนะนำและเพิ่มการมองเห็นให้ Reels ของเราใน Feed หลักมากขึ้น
แล้ววิธีการดู Trending Song ต้องทำอย่างไรล่ะ? วิธีง่าย ๆ คือ การไถวิดีโอ ดู Instagram Reels ไปเรื่อย ๆ ถ้าหากเราเริ่มเห็นเพลง หรือเสียง ไหนถูกใช้ใน Reels บ่อย ๆ ให้ลองกดเข้าไปที่ไอคอนรูปตัวโน้ตเพื่อดูดีเทลของเพลงนั้น ๆ เมื่อกดเข้าไปแล้ว เราจะเจอกับชื่อเพลง ชื่อศิลปิน และตัวหนังสือเล็ก ๆ สีเทาข้างใต้ที่เขียนจำนวน Reels ที่ใช้เพลงนั้น ๆ ประกอบอยู่ ซึ่งอาจจะมีตั้งแต่หลักสิบ หลักร้อย ไปจนถึงเพลงยอดฮิตที่มีหลักแสน
Trending Song ที่ดีคือเพลงที่มีจำนวนการถูกใช้งานใน Reels อยู่ที่ตั้งแต่ 5,000 ไปจนถึง 50,000 (50k) แต่หากยอดมากกว่านั้น เช่นเพลงที่ถูกนำไปใช้เยอะเกิน 50k-100k ขึ้นไป แม้เพลงจะติดเทรนด์ แต่ก็จะทำให้โอกาสการถูกมองเห็นของเรายากขึ้น (เหมือนเรากำลังยืนตะโกนท่ามกลางคนจำนวนมากเกินไป) เพราะฉะนั้นเหล่า Content Creators อย่างเราก็ต้องฝึกจับจังหวะหา Trending Song ที่กำลังอยู่ในกระแสอัลกอริธึมที่กำลังพอดี ไม่มากไม่น้อยไป!
4. รัก การ อ่าน
มีสถิติที่ระบุว่า Facebook มียอดวิววิดีโอรวม ๆ กันทั้งแพลตฟอร์มสูงถึง 4 พันล้านวิวต่อวัน! นอกจากนี้กว่า 85% ของยอดวิวนั้นเป็นการดูวิดีโอแบบไม่มีเสียง หรือเน้นการอ่านข้อความบนวิดีโอซะมากกว่า เช่นเดียวกันกับ Instagram Reels แม้ว่าเราควรโฟกัสกับเสียงเพลงที่ใช้และการตัดต่อ การใส่ข้อความบนวิดีโอก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยดึงความสนใจจากคนดูได้เหมือนกัน
ที่จริงแล้ว Instagram มีฟีเจอร์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถเพิ่ม ‘Closed Captions’ ที่ดึงเสียงจากวิดีโอและถอดออกมาเป็นข้อความเพื่อใส่เข้าไปในวิดีโอได้อัตโนมัติ แต่ไม่ใช่ผู้ใช้งานทุกคนที่สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ดังกล่าวได้
โดยอีกหนึ่งวิธีที่ง่าย และเวิร์คไม่แพ้กันคือการใส่ข้อความลงไปในวิดีโอด้วยตัวเอง เช่น การใส่เนื้อเพลงจากเพลงที่ใช้ หรือแคปชั่นที่เกี่ยวกับเนื้อหาของวิดีโอเพื่อสื่อสารให้คนดูเข้าใจมากขึ้นก็ได้
5. Post Post
หลังโพสต์ Reels ของเราไปแล้ว ก็ยังไม่ถือว่าสิ้นสุดขั้นตอนการสร้างคอนเทนต์ ยังมีเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามมา เช่น เราควรรีบแชร์ Reels นั้น ๆ ลง Instagram Stories ของตัวเองต่อทันทีเพื่อเพิ่มโอกาสที่ Followers จะเห็นวิดีโอของเรามากขึ้น และกดเข้าไปดูตามทีหลังหาก Reels ของเราไม่ปรากฏใน Feed เพียงพอ และหลังโพสต์ หลังแชร์แล้ว ก็อย่าเพิ่งออกจากแอปพลิเคชันเลยทันที ใช้เวลารอตอบ Comment จาก Followers ของเราอีกสักนิด ยิ่งเกิด Engagement ใต้โพสต์นั้น ๆ เท่าไร ก็มีความเป็นไปได้ที่อัลกอริธึมจะช่วยบูสต์โพสต์ของเราเท่านั้น
ไม่ว่าจะเป็น Instagram Reels หรือแม้แต่โพสต์ภาพนิ่งในแพลตฟอร์ม Instagram ก็ตาม การสร้างคอนเทนต์เพื่อเพิ่มยอดวิว-ยอด Followers ก็ถือเป็นงานระยะยาวที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอบ่อย ๆ และห้ามเว้นไว้นานเด็ดขาด เพราะฉะนั้นหลังอ่านบทความนี้จบแล้ว จะหยิบเอามือถือขึ้นมาถ่ายแล้วแชร์ลง Instagram ก็ได้ไม่ว่ากัน!