ถ้าพูดถึงบ้านที่น่าอยู่ หลายคนอาจนึกถึงบ้านที่สะอาด มีการจัดเก็บสิ่งของเป็นสัดส่วน อากาศถ่ายเทสะดวก มีแสงสว่างเพียงพอ ทั้งนี้บ้านที่น่าอยู่จะส่งผลที่ดีต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจของสมาชิกภายในบ้าน รวมถึงผู้มาเยี่ยม
ปัจจุบันมีเทรนด์การตกแต่ง หรือรีโนเวทบ้านแบบที่เรียกว่าบ้านสไตล์มินิมอล ซึ่งก็คือการตกแต่งที่เน้นความธรรมดา เรียบง่าย ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่ครบถ้วนในเรื่องของประโยชน์ใช้สอย มีการคุมโทนสีแบบโมโนโทนหรือสีอ่อน ที่คนมักพูดว่า “น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้” มีการจัดพื้นที่ให้รู้สึกถึงความผ่อนคลาย โปร่ง โล่ง รวมไปถึงการมีสิ่งของต่าง ๆ ตามความจําเป็น ข้อดีของการทำบ้านสไตล์มินิมอลหลัก ๆ เลยก็คือ ทำความสะอาดง่าย นอกจากนี้ยังช่วยลดความเครียด เพราะการที่มีข้าวของน้อยชิ้น ทำให้บ้านดูเรียบง่าย เห็นแล้วก็รู้สึกสบายตา สบายใจ
อ่านมาถึงตรงนี้ถ้าใครสนใจรีโนเวทบ้านสไตล์มินิมอล สิ่งที่อยากแนะนำในขั้นแรกก็คือ
ควรกำหนดเป้าหมาย เช่น อยากปรับปรุงบ้านให้เหมาะสมกับสมาชิกในบ้าน ทั้งผู้สูงอายุ เด็ก หรือมีสมาชิกใหม่ อยากปรับเปลี่ยนสไตล์บ้าน อยากทำบ้านให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น หรือต้องการพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น ขั้นต่อมาก็
ทำรายการว่าส่วนใดบ้างที่ต้องการปรับปรุง เช่น เพิ่มห้องนอน เพิ่มหน้าต่าง ทำห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุ ขยายพื้นที่ห้องนั่งเล่น เพิ่มตู้เก็บของ ทาสีบ้านใหม่ ฯลฯ
ทั้งนี้ในการรีโนเวทบ้านควร
ตรวจสอบตัวบ้านและพื้นที่โดยรอบก่อนว่า เหมาะที่จะรีโนเวทหรือไม่ และสามารถรีโนเวทได้หรือไม่ เช่น โครงสร้างบ้านเดิมสามารถรับน้ำหนักของส่วนต่อเติมได้หรือไม่ ต่อเติมเลยหรือทุบแล้วสร้างใหม่อย่างไรคุ้มกว่ากัน ส่วนที่รีโนเวทกระทบระบบไฟฟ้าและประปาหรือไม่ โดยอาจให้ผู้ที่มีความชำนาญมาช่วยดู เพื่อความปลอดภัยและความคุ้มค่าในการรีโนเวท
นอกจากนี้ควร
ศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการรีโนเวทบ้านเก่าด้วย เพราะแม้เราจะมีกรรมสิทธิ์ในบ้านอย่างเต็มที่ แต่การรีโนเวทบ้านก็มีเรื่องกฎหมายที่เราต้องทำตาม และหากจำเป็นก็จะต้องขออนุญาตก่อนการก่อสร้าง ดัดแปลง ต่อเติม เพื่อความถูกต้องตามกฎหมาย
อีกเรื่องที่สำคัญมากในการรีโนเวทบ้านก็คือ งบประมาณค่าใช้จ่าย ซึ่งในการรีโนเวทบ้านนั้นมีค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ 3 ส่วน ดังนี้
งบประมาณค่าใช้จ่ายในการรีโนเวทบ้าน
1. ค่าออกแบบ
ค่าใช้จ่ายส่วนนี้มักจะคำนวณจากขนาดพื้นที่ใช้สอยของบ้าน ราคาจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ความชำนาญ ผลงานที่ผ่านมาของผู้ออกแบบแต่ละราย และความยากง่ายของการออกแบบ โดยทั่วไปค่าออกแบบจะครอบคลุมถึง ค่าวิศวกร ค่าคำนวณแบบโครงสร้าง ค่าเขียนแบบ และค่าวิชาชีพ โดยระยะเวลาในการบริการจะเริ่มตั้งแต่ การเขียนแบบ การเตรียมเอกสารในการยื่นขออนุญาติก่อสร้าง การเซ็นแบบก่อสร้าง การหาผู้รับเหมาก่อสร้าง การควบคุมงานก่อสร้างให้เป็นไปตามแบบ และกระบวนการอื่น ๆ จนกว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จ
2. ค่าผู้รับเหมา / ค่าช่าง
เมื่อได้แบบมาแล้ว เราจะนำแบบไปคุยรายละเอียดและประเมินราคากับผู้รับเหมา โดยจะต้องดู BOQ หรือบัญชีรายการวัสดุก่อสร้างและค่าแรงที่ผู้รับเหมาเสนอมา หากตกลงกันได้แล้วก็ให้ผู้รับเหมาทำสัญญาว่าจ้าง ซึ่งเงินงวดแต่ละงวดที่อยู่ในสัญญา ก็ควรจะอ้างอิงจาก BOQ และเราจะจ่ายเงินในแต่ละงวดก็ต่อเมื่อเนื้องานของงวดนั้น ๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้การจ่ายเงินเป็นงวดจะช่วยเซฟตัวเราไม่ให้โดนหลอก และไม่เสียเปรียบ กรณีผู้รับเหมาทำงานไม่ถูกต้อง หรือทิ้งงาน
3. ค่าเช่าที่อยู่อาศัย (กรณีไม่มีที่อยู่สำรอง)
ค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะเกิดต่อเมื่อเราทำการปรับปรุงบ้านทั้งหลัง แล้วต้องไปอาศัยอยู่ที่อื่นชั่วคราว ซึ่งสามารถคำนวณได้โดยใช้
”ระยะเวลาการก่อสร้าง X ค่าเช่ารายเดือน”
ทั้งนี้นอกจากค่าใช้จ่ายทั้ง 3 ส่วนที่เรากล่าวไปแล้ว ถ้าหากอยากมั่นใจและสบายใจมากขึ้น หลังจากกำหนดงบประมาณทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว
อย่าลืมเผื่องบประมาณเข้าไปอีกประมาณ 10 - 20% สำหรับกรณีฉุกเฉิน เช่น เปลี่ยนแปลงแบบ หรือการซ่อมแซมจุดอื่น ๆ ที่คาดไม่ถึงเพิ่มเติม อย่างเจอปลวกในบ้าน ต้องมีค่าบริการกำจัดปลวก เป็นต้น
ทางออกสำหรับคนที่อยากรีโนเวทบ้านแต่ยังมีงบไม่พอ
หากคำนวณได้คร่าว ๆ แล้วว่าค่าใช้จ่ายในการรีโนเวทบ้านเป็นเงินเท่าไร แต่ยังมีเงินก้อนไม่พอ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาขอแนะนำ
สินเชื่อกรุงศรีโฮมฟอร์แคช สินเชื่อบ้านแลกเงินก้อน อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเฉลี่ย 5.90% ต่อปี นาน 3 ปี พร้อมฟรี! ค่าธรรมเนียมสำรวจและประเมินหลักประกัน มูลค่า 3,210 บาท* และยังให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 85% ของราคาประเมิน ใครที่สนใจสามารถสอบถามได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทุกสาขา
สุดท้ายนี้ขอฝากว่าคุณภาพชีวิตที่ดี มาจากจุดเริ่มต้นที่ดี ซึ่งก็คือบ้านของเรานั่นเอง และบ้านจะขนาดเล็กหรือใหญ่ไม่สำคัญเท่าความน่าอยู่ กับการสร้างความสุขให้สมาชิกทุกคนในบ้าน
- กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว | อัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอกตลอดอายุสัญญาอยู่ระหว่าง 6.61% - 10.30%ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยตามประกาศธนาคาร ณ วันที่ 6 ต.ค. 66 อัตราดอกเบี้ย MRR = 7.40% ต่อปี ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้
หมายเหตุ: อัตราดอกเบี้ยนี้เป็นข้อมูล ณ วันที่โพสต์บทความ สามารถตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยปัจจุบัน และรายละเอียดการคำนวณเพิ่มเติมได้ที่ www.krungsri.com