น้อยแต่มาก How to รีโนเวทบ้านให้น่าอยู่ตามสไตล์มินิมอล
รอบรู้เรื่องบ้าน
icon-Facebook icon-Twitter icon-line

น้อยแต่มาก How to รีโนเวทบ้านให้น่าอยู่ตามสไตล์มินิมอล

icon-access-time Posted On 11 กรกฎาคม 2567
By Krungsri The COACH
ถ้าพูดถึงบ้านที่น่าอยู่ หลายคนอาจนึกถึงบ้านที่สะอาด มีการจัดเก็บสิ่งของเป็นสัดส่วน อากาศถ่ายเทสะดวก มีแสงสว่างเพียงพอ ทั้งนี้บ้านที่น่าอยู่จะส่งผลที่ดีต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจของสมาชิกภายในบ้าน รวมถึงผู้มาเยี่ยม

ปัจจุบันมีเทรนด์การตกแต่ง หรือรีโนเวทบ้านแบบที่เรียกว่าบ้านสไตล์มินิมอล ซึ่งก็คือการตกแต่งที่เน้นความธรรมดา เรียบง่าย ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่ครบถ้วนในเรื่องของประโยชน์ใช้สอย มีการคุมโทนสีแบบโมโนโทนหรือสีอ่อน ที่คนมักพูดว่า “น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้” มีการจัดพื้นที่ให้รู้สึกถึงความผ่อนคลาย โปร่ง โล่ง รวมไปถึงการมีสิ่งของต่าง ๆ ตามความจําเป็น ข้อดีของการทำบ้านสไตล์มินิมอลหลัก ๆ เลยก็คือ ทำความสะอาดง่าย นอกจากนี้ยังช่วยลดความเครียด เพราะการที่มีข้าวของน้อยชิ้น ทำให้บ้านดูเรียบง่าย เห็นแล้วก็รู้สึกสบายตา สบายใจ
แต่งบ้านสไตล์มินิมอล

อ่านมาถึงตรงนี้ถ้าใครสนใจรีโนเวทบ้านสไตล์มินิมอล สิ่งที่อยากแนะนำในขั้นแรกก็คือ ควรกำหนดเป้าหมาย เช่น อยากปรับปรุงบ้านให้เหมาะสมกับสมาชิกในบ้าน ทั้งผู้สูงอายุ เด็ก หรือมีสมาชิกใหม่ อยากปรับเปลี่ยนสไตล์บ้าน อยากทำบ้านให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น หรือต้องการพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น ขั้นต่อมาก็ทำรายการว่าส่วนใดบ้างที่ต้องการปรับปรุง เช่น เพิ่มห้องนอน เพิ่มหน้าต่าง ทำห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุ ขยายพื้นที่ห้องนั่งเล่น เพิ่มตู้เก็บของ ทาสีบ้านใหม่ ฯลฯ
 
รีโนเวทบ้านเก่า

ทั้งนี้ในการรีโนเวทบ้านควรตรวจสอบตัวบ้านและพื้นที่โดยรอบก่อนว่า เหมาะที่จะรีโนเวทหรือไม่ และสามารถรีโนเวทได้หรือไม่ เช่น โครงสร้างบ้านเดิมสามารถรับน้ำหนักของส่วนต่อเติมได้หรือไม่ ต่อเติมเลยหรือทุบแล้วสร้างใหม่อย่างไรคุ้มกว่ากัน ส่วนที่รีโนเวทกระทบระบบไฟฟ้าและประปาหรือไม่ โดยอาจให้ผู้ที่มีความชำนาญมาช่วยดู เพื่อความปลอดภัยและความคุ้มค่าในการรีโนเวท
 
ตรวจสอบตัวบ้านและพื้นที่โดยรอบก่อนรีโนเวทบ้าน

นอกจากนี้ควรศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการรีโนเวทบ้านเก่าด้วย เพราะแม้เราจะมีกรรมสิทธิ์ในบ้านอย่างเต็มที่ แต่การรีโนเวทบ้านก็มีเรื่องกฎหมายที่เราต้องทำตาม และหากจำเป็นก็จะต้องขออนุญาตก่อนการก่อสร้าง ดัดแปลง ต่อเติม เพื่อความถูกต้องตามกฎหมาย

อีกเรื่องที่สำคัญมากในการรีโนเวทบ้านก็คือ งบประมาณค่าใช้จ่าย ซึ่งในการรีโนเวทบ้านนั้นมีค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ 3 ส่วน ดังนี้

งบประมาณค่าใช้จ่ายในการรีโนเวทบ้าน

งบประมาณค่าใช้จ่ายในการรีโนเวทบ้าน
 

1. ค่าออกแบบ

ค่าใช้จ่ายส่วนนี้มักจะคำนวณจากขนาดพื้นที่ใช้สอยของบ้าน ราคาจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ความชำนาญ ผลงานที่ผ่านมาของผู้ออกแบบแต่ละราย และความยากง่ายของการออกแบบ โดยทั่วไปค่าออกแบบจะครอบคลุมถึง ค่าวิศวกร ค่าคำนวณแบบโครงสร้าง ค่าเขียนแบบ และค่าวิชาชีพ โดยระยะเวลาในการบริการจะเริ่มตั้งแต่ การเขียนแบบ การเตรียมเอกสารในการยื่นขออนุญาติก่อสร้าง การเซ็นแบบก่อสร้าง การหาผู้รับเหมาก่อสร้าง การควบคุมงานก่อสร้างให้เป็นไปตามแบบ และกระบวนการอื่น ๆ จนกว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จ
 

2. ค่าผู้รับเหมา / ค่าช่าง

เมื่อได้แบบมาแล้ว เราจะนำแบบไปคุยรายละเอียดและประเมินราคากับผู้รับเหมา โดยจะต้องดู BOQ หรือบัญชีรายการวัสดุก่อสร้างและค่าแรงที่ผู้รับเหมาเสนอมา หากตกลงกันได้แล้วก็ให้ผู้รับเหมาทำสัญญาว่าจ้าง ซึ่งเงินงวดแต่ละงวดที่อยู่ในสัญญา ก็ควรจะอ้างอิงจาก BOQ และเราจะจ่ายเงินในแต่ละงวดก็ต่อเมื่อเนื้องานของงวดนั้น ๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้การจ่ายเงินเป็นงวดจะช่วยเซฟตัวเราไม่ให้โดนหลอก และไม่เสียเปรียบ กรณีผู้รับเหมาทำงานไม่ถูกต้อง หรือทิ้งงาน
 

3. ค่าเช่าที่อยู่อาศัย (กรณีไม่มีที่อยู่สำรอง)

ค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะเกิดต่อเมื่อเราทำการปรับปรุงบ้านทั้งหลัง แล้วต้องไปอาศัยอยู่ที่อื่นชั่วคราว ซึ่งสามารถคำนวณได้โดยใช้

”ระยะเวลาการก่อสร้าง X ค่าเช่ารายเดือน”

ทั้งนี้นอกจากค่าใช้จ่ายทั้ง 3 ส่วนที่เรากล่าวไปแล้ว ถ้าหากอยากมั่นใจและสบายใจมากขึ้น หลังจากกำหนดงบประมาณทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมเผื่องบประมาณเข้าไปอีกประมาณ 10 - 20% สำหรับกรณีฉุกเฉิน เช่น เปลี่ยนแปลงแบบ หรือการซ่อมแซมจุดอื่น ๆ ที่คาดไม่ถึงเพิ่มเติม อย่างเจอปลวกในบ้าน ต้องมีค่าบริการกำจัดปลวก เป็นต้น

ทางออกสำหรับคนที่อยากรีโนเวทบ้านแต่ยังมีงบไม่พอ

หากคำนวณได้คร่าว ๆ แล้วว่าค่าใช้จ่ายในการรีโนเวทบ้านเป็นเงินเท่าไร แต่ยังมีเงินก้อนไม่พอ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาขอแนะนำ สินเชื่อกรุงศรีโฮมฟอร์แคช สินเชื่อบ้านแลกเงินก้อน อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเฉลี่ย 5.90% ต่อปี นาน 3 ปี พร้อมฟรี! ค่าธรรมเนียมสำรวจและประเมินหลักประกัน มูลค่า 3,210 บาท* และยังให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 85% ของราคาประเมิน ใครที่สนใจสามารถสอบถามได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทุกสาขา

สุดท้ายนี้ขอฝากว่าคุณภาพชีวิตที่ดี มาจากจุดเริ่มต้นที่ดี ซึ่งก็คือบ้านของเรานั่นเอง และบ้านจะขนาดเล็กหรือใหญ่ไม่สำคัญเท่าความน่าอยู่ กับการสร้างความสุขให้สมาชิกทุกคนในบ้าน
 
  • กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว | อัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอกตลอดอายุสัญญาอยู่ระหว่าง 6.61% - 10.30%ต่อปี
  • อัตราดอกเบี้ยตามประกาศธนาคาร ณ วันที่ 6 ต.ค. 66 อัตราดอกเบี้ย MRR = 7.40% ต่อปี ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้

หมายเหตุ: อัตราดอกเบี้ยนี้เป็นข้อมูล ณ วันที่โพสต์บทความ สามารถตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยปัจจุบัน และรายละเอียดการคำนวณเพิ่มเติมได้ที่ www.krungsri.com
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา