การดูแลผู้สูงอายุอาจเป็นเรื่องที่สร้างความกังวลใจให้ใครหลาย ๆ คน แต่ในความเป็นจริงแล้วหากดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวด้วยความรักและความเข้าใจและเตรียมพร้อมตัวช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายอย่าง
ประกันสุขภาพ เพื่อผู้สูงอายุที่ดี การรับมือกับผู้สูงอายุให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงก็จะกลายเป็นเรื่องง่าย ๆ ในพริบตา เรามาลองดูแนวทางการดูแลผู้สูงอายุที่บ้านง่าย ๆ แต่รับรองว่าจะทำให้พวกท่านรับรู้ได้ถึงความใส่ใจกันดีกว่า
แนะนำการดูแลผู้สูงอายุ
ด้วยวัฒนธรรมไทยที่ส่วนใหญ่จะอาศัยร่วมกับผู้สูงอายุในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ คุณปู่คุณย่า หรือคุณตาคุณยาย ซึ่งเป็นเรื่องที่สะดวกและง่ายเพราะผู้สูงอายุอยู่ใกล้ชิด นอกจากจะมีโอกาสแสดงความรักและความเอาใจใส่ต่อผู้สูงอายุอย่างสม่ำเสมอแล้ว ก็ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามดังนี้
กินดีอยู่ดี สุขภาพดีจากภายใน
อาหารการกินนั้นเป็นตัวแปลสำคัญมากสำหรับการดูแลผู้สูงอายุ เพราะผู้สูงอายุเป็นวัยที่ร่างกายมีความต้องการพลังงานน้อยลงเนื่องจากมีกิจกรรมให้ทำในแต่ละวันไม่มากนัก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเน้นเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์และย่อยง่าย เช่น ผัก ผลไม้ หรือเลือกทานอาหารที่ปรุงโดยใช้การ ต้ม ย่าง นึ่งเป็นหลัก หลีกเลี่ยงของทอดของมัน และอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล ไขมัน ที่นอกจากจะย่อยยากแล้ว ยังมีโอกาสทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนตามมาอีกด้วย
ควบคุมน้ำหนักของผู้สูงอายุอย่าให้น้ำหนักเกิน
ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ หากมีน้ำหนักที่มากเกินไป ย่อมไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายอย่างแน่นอน และยิ่งถ้าเป็นผู้สูงอายุด้วยแล้ว ยิ่งมีความเสี่ยงต่อการเจ็บตามข้อต่อที่เกิดจากการรับน้ำหนักตัวที่มากจนเกินไป เช่น เข่า หลัง สะโพก ซึ่งอาจทำให้มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย จึงควรทานอาหารและออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ นอกจากนี้ยังลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ เบาหวาน และความดันอีกด้วย
ปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ
การจัดเตรียมบ้านให้เหมาะสมเพื่อการ
ดูแลผู้สูงอายุให้ดีขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องยาก อาจเริ่มจากย้ายห้องของผู้สูงอายุลงมาอยู่ชั้นล่าง ลดการเดินขึ้น - ลง บันไดที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย รวมไปถึงการเพิ่มราวจับในห้องน้ำหรือห้องที่มีการใช้งานบ่อย ระมัดระวังในส่วนของพื้นต่างระดับและพยายามไม่ให้พื้นห้องน้ำเปียก เพราะผู้สูงอายุอาจลื่นได้ง่าย จัดบ้านให้เรียบร้อย มีแสงสว่างที่พอเหมาะ และมีอากาศถ่ายเท
ยืดเส้นยืดสายบ้างให้ร่างกายยืดหยุ่น
การออกกำลังกายนั้นสำคัญสำหรับทุกเพศทุกวัยอยู่แล้ว และสำหรับการดูแลผู้สูงอายุนั้น การออกกำลังกายย่อมสำคัญมาก เพราะมันเหมายถึงการเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง ยืดหยุ่น เมื่อมีการพลัดตกหกล้มจริงก็มีโอกาสที่จะทำให้บาดเจ็บน้อยลง นอกจากนี้การออกกำลังกายยังมีส่วนช่วยให้อวัยวะภายในทำงานได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น หัวใจ ปอด ระบบขับถ่าย กระดูกและกล้ามเนื้อ รวมไปถึงสมอง การออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุนั้นอาจทำท่าง่าย ๆ เช่น เดินช้า ๆ ยกแขน แกว่งแขนไปมา วันละ 10 – 20 นาที ก็ช่วยคลายกล้ามเนื้อไม่ให้เหนื่อยเมื่อยล้า และทำให้เลือดลมดีขึ้นอีกด้วย
พูดคุยกับผู้สูงอายุและหากิจกรรมทำร่วมกัน
ผู้สูงอายุบางคนอาจจะรู้สึกเหงาหรือรู้สึกเป็นภาระสำหรับลูกหลานที่จะต้องมาคอยดูแลอยู่ตลอดเวลา การพูดคุยและการสื่อสารกับผู้สูงอายุทุกวันจะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกผ่อนคลาย โดยสามารถเป็นบทสนทนาง่าย ๆ เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุได้รู้สึกใกล้ชิดครอบครัวมากขึ้น หากมีเวลาหลังเลิกงาน หรือในวันหยุดสุดสัปดาห์ อาจหากิจกรรมทำร่วมกันกับผู้สูงอายุ เช่น ดูทีวี เล่นบอร์ดเกม หรือพาท่านออกไปทานข้าวนอกบ้าน พาออกไปเดินตามสวนสาธารณะหรือชายทะเล ให้ผู้สูงอายุได้รับอากาศบริสุทธิ์และรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวด้วย
ผู้สูงอายุควรหลีกเลี่ยงอบายมุขที่บั่นทอนสุขภาพ
การสูบบุหรี่ หรือดื่มเหล้า ไม่เคยมีผลดีกับใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุ ซึ่งการลด ละ เลิก จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดต่อสุขภาพของผู้สูงอายุเอง แต่แน่นอนว่ามันคงไม่ได้เลิกกันได้ง่าย ๆ ดังนั้นญาติ หรือผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุจึงควรหมั่นให้กำลังใจ และชักชวนทำกิจกรรมอื่น ๆ อยู่สม่ำเสมอ อีกทั้งยังควรคอยสังเกตอาการของผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิดด้วย
ดูแลผู้สูงอายุอย่าให้เกิดอุบัติเหตุ
สิ่งที่ต้องระมัดระวังที่สุดในการดูแลผู้สูงอายุก็คือ การระวังไม่ให้ผู้สูงอายุเกิดอุบัติเหตุ เพราะร่างกายของผู้สูงอายุนั้น ไม่ได้แข็งแรงและฟื้นตัวได้รวดเร็วเหมือนตอนเป็นหนุ่ม ๆ สาว ๆ อีกต่อไป เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ อาจเกิดการบาดเจ็บ กระดูกหัก และอาจต้องการเวลารักษาตัวที่นานขึ้นกว่าคนอายุน้อยกว่า รวมถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาที่จะเพิ่มขึ้นตามลำดับ ผู้ดูแลผู้สูงอายุอาจพิจารณา
ประกันสุขภาพผู้สูงอายุที่ให้ความคุ้มครองผู้สูงอายุจากการเกิดอุบัติเหตุที่อาจะเกิดขึ้นแบบกะทันหัน เพื่อลดความเสี่ยงเรื่องความไม่พร้อมด้านค่าใช้จ่าย
สังเกตอาการผิดปกติในผู้สูงอายุ
ผู้สูงอายุนั้นเป็นวัยที่สามารถเจ็บป่วยได้ง่าย เนื่องจากสภาพร่างกายที่ถดถอยจากการใช้งานมานาน ดังนั้นผู้ดูแลผู้สูงอายุควรหมั่นสังเกตอาการผิดปกติต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในผู้สูงอายุ เช่น กลืนอาหารลำบาก ท้องอืด ท้องผูก เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เบื่อง่าย ปวดเจ็บตามร่างกาย อาการต่าง ๆ เหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงอาการผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้นภายใน เพราะบางครั้งอาการอาจจะไม่แสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน แต่พอรู้ตัวอีกทีก็อาจจะเข้าสู่ภาวะที่รุนแรงแล้วก็ได้
หมั่นดูแลเรื่องสุขอนามัย
ความสะอาดสำคัญมากในการดูแลผู้สูงอายุ เพราะภูมิคุ้มกันในร่างกายของผู้สูงอายุนั้นไม่ได้แข็งแรงเหมือนแต่ก่อน หากหยิบจับสิ่งสกปรกเข้าสู่ร่างกาย อาจจะทำให้เกิดการเจ็บป่วยได้ง่ายกว่าปกติมาก รวมไปถึงการชะล้าง ทำความสะอาดตามร่างกาย เช่น เล็บ ฟัน ผม ผิวหนัง ก็ควรหมั่นดูแลความสะอาดทุกวันอย่างต่อเนื่องด้วย
นัดพบแพทย์และตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
ผู้ดูแลผู้สูงอายุควรหมั่นพาผู้สูงอายุไปตรวจร่างกายประจำปีอย่างสม่ำเสมอทุกปี หรืออย่างน้อย 2 ปี เพื่อลดปัจจัยการเกิดโรคต่าง ๆ หากพบสิ่งผิดปกติ ก็จะได้วางแผนหาทางรับมือได้อย่างทันท่วงที ค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้สูงอายุนั้นไม่น้อย ผู้ดูแลควรพิจารณาประกันสุขภาพ ผู้สูงอายุให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ประกันสุขภาพจะตอบโจทย์ครอบคลุมการรักษาและคุ้มค่ากับเบี้ยประกันที่คุณต้องจ่ายไป แต่หากต้องการความคุ้มครองวางแผนหลังเกษียณประกันชีวิตสะสมทรัพย์หรือประกันบำนาญก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย นอกจากจะช่วยให้คุณมีแผนการเงินที่ชัดเจนแล้วยังสามารถนำไป
ลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
สุดท้ายนี้ผู้สูงอายุนั้นเพียงแค่ต้องการการดูแลเอาใจใส่ด้วยความรัก ความเอาใจใส่ หากเราสามารถดูแลผู้สูงอายุได้ด้วยความรัก ความเข้าใจ ก็สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ง่าย ๆ และผู้สูงอายุก็จะอยู่กับเราอย่างมีความสุขความเข้าใจไปนาน ๆ ทางธนาคารกรุงศรีมีผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงินโดยเฉพาะ ที่สามารถปรึกษาผ่านช่องทางฮอตไลน์ได้ที่ 02-296-5959 จันทร์ - ศุกร์ เวลา 9.00 น. - 17.00 น. หรือฝากข้อมูลเพื่อให้
ที่ปรึกษาทางด้านการเงินจากธนาคารกรุงศรี ติดต่อกลับ
บทความโดย
สิรภัทร เกาฏีระ CFP®
กลุ่มบริการที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา