ในภาวะเศรษฐกิจยุคโรคระบาดแบบนี้ อาจทำให้ใครหลายคนมอง
หารายได้พิเศษ เพื่อแบ่งเบาภาระทางบ้าน หรือไว้เป็นเงินเก็บส่วนตัวซึ่งแต่ละคนก็มีช่องทางแตกต่างกันไป บางคนเลือกเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ หรือบางคนก็รับงานพิเศษตามความถนัดของตัวเองมาทำ แต่น้อง ๆ รู้กันไหมว่ามีอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับ
สร้างรายได้ และความมั่นคงในระยะยาว ซึ่งน้อง ๆ วัยเรียนก็สามารถทำได้ นั่นก็คือการแบ่งเงินเก็บ มาลงทุนใน
’กองทุนรวม’ แล้วให้เงินทำงานให้งอกเงย หรือจ่ายเงินปันผลให้เรา ที่เรียกว่า
Passive income นั่นเอง ฟังดูแล้วน่าสนใจไหมล่ะ ตามมาอ่านต่อเลย
- เพื่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์
- ไม่ต้องมีเงินก้อนโตก็เริ่มต้นลงทุนได้ เพียง 500 บาท ก็เริ่มต้นลงทุนได้แล้ว
- มีกองทุนให้เลือกหลากหลายตามนโยบายการลงทุนที่สนใจ และระดับความเสี่ยงที่รับได้
- สบายใจไร้กังวลเพราะมีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน คอยดูแลการลงทุนให้
- เป็นการสร้างวินัยการเงินตั้งแต่ยังเรียนอยู่
แต่เพราะว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ดังนั้นก่อนที่จะลงทุนในกองทุนรวม เราเลยอยากชวนน้อง ๆ มาดูแนวคิดการลงทุนกัน หลัก ๆ มี 2 รูปแบบ ได้แก่
แบบที่ 1: แบ่งเงินบางส่วนมาเริ่มซื้อกองทุนรวม
น้อง ๆ หลายคนที่มีเงินเก็บ ไม่ว่าจะกี่บาท จะมากหรือน้อยนั้นไม่สำคัญ แต่ขอให้ลองแบ่งเงินบางส่วน เอาจำนวนที่เราสบายใจมาเริ่มลงทุน โดยใครที่เป็นมือใหม่ ยังกล้า ๆ กลัว ๆ รับ
ความเสี่ยงได้ไม่เยอะ ก็อาจเลือกลงทุนใน
กองทุนรวมตราสารหนี้ ที่มีความเสี่ยงต่ำ สภาพคล่องสูง ซื้อ-ขายได้รับเงินไว และเมื่อเริ่มลงทุนแล้วก็ควรติดตามเป็นระยะ ๆ ว่าเมื่อเวลาผ่านไปเงินของเรางอกเงยมากน้อยแค่ไหน หรือหากน้อง ๆ สามารถรับความเสี่ยงได้มากขึ้น อาจเลือกลงทุนในกองทุนที่มีสัดส่วนลงทุนในหุ้นมากขึ้น ตัวอย่างเช่น
กองทุนรวมกรุงศรี The One ที่มี 3 กองทุนให้เลือกตามความเสี่ยงที่รับได้ (KF1MILD, KF1MEAN, KF1MAX) ซึ่งลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก ที่สำคัญเป็นกองทุนแบบ Asset allocation กระจายความเสี่ยงให้โดยอัตโนมัติ ลงทุนกองทุนเดียวก็เหมือนได้จัดพอร์ต และใช้เงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 500 บาทเท่านั้น
แบบที่ 2: ลงทุนแบบ DCA (Dollar-cost averaging)
สำหรับแผนการลงทุนนี้สุดจะฮิตเลยทีเดียว โดยน้อง ๆ อาจจะแบ่งเงินค่าขนมสักเดือนละ 500 บาท มาซื้อกองทุนรวมโดยไม่ต้องสนใจราคาของ
กองทุนรวมว่ามีราคาถูกหรือแพง เพราะหัวใจสำคัญของ DCA คือการมีวินัย ลงทุนซ้ำ ๆ ด้วยจำนวนเงินเท่าเดิมทุกเดือน ดังนั้นด้วยเงินที่เท่ากันเราจะซื้อหน่วยลงทุนได้มากขึ้นเมื่อราคากองทุนรวมปรับตัวลง และจะซื้อได้น้อยลงหากกองทุนรวมมีราคาสูงขึ้น เป็นการถัวเฉลี่ยต้นทุน ช่วยให้เราไม่ต้องเครียด หรือกังวลในเรื่องของราคา เช่น กองทุนรวมมีราคาหน่วยละ 9-15 บาท หากเราใช้แผน DCA ด้วยเงินลงทุนเท่า ๆ กันเดือนละ 500 บาท ในระยะเวลา 1 ปี เราก็จะได้ราคาเฉลี่ยที่ดีกว่าการซื้อเป็นช่วง ๆ ตามแผนลงทุนดังนี้เลย
จากตัวอย่างจะเห็นว่าการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยจะทำให้เรามีต้นทุนเฉลี่ยเพียง 11.25 บาทต่อหน่วยลงทุน ได้หน่วยลงทุนทั้งหมด 548.42 หน่วย ซึ่งหากดูจริง ๆ ในบางช่วงราคาพุ่งไปสูงถึง 13-15 บาทต่อหน่วยลงทุนเลยทีเดียว ถ้าเราลงทุนทีเดียวทั้งก้อนที่ราคา 15 บาท ด้วยเงินลงทุนทั้งหมดเราจะได้เพียง 400 หน่วยลงทุน ลองคิดดูว่าขนาดใช้เงินลงทุนหลักร้อยเมื่อเวลาผ่านไปปีเดียว ยังแตกต่างกันขนาดนี้ หากเราใช้เงินลงทุนที่มากขึ้นและระยะเวลานานขึ้นก็จะยิ่งเห็นความต่างมาก เพราะแบบนี้
การลงทุนด้วยแผน DCA จึงเป็นตัวเลือกที่ดีมากเลย
การเริ่มลงทุนในวัยเรียนก็นอกจากช่วยฝึกวินัย สร้างรากฐานความมั่นคงให้ตัวเราแล้ว ยังทำให้เรามีเงินก้อนไว้เป็นของขวัญวันเรียนจบสำหรับตัวเอง เพื่อใช้ต่อยอดทำตามความฝัน เช่น เรียนต่อ หรือทำธุรกิจได้
มาถึงตรงนี้น้อง ๆ คงพอจะตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกใช้แผนการลงทุนแบบไหนที่เหมาะกับตัวเอง ส่วนต่อไปคือการเปิดบัญชีกองทุนรวม ซึ่งเดี๋ยวนี้น้อง ๆ สามารถ
เปิดบัญชีกองทุนรวม และซื้อ-ขาย ดูพอร์ตการลงทุนได้ด้วยตัวเอง สะดวก รวดเร็ว ผ่าน
KMA krungsri app อ่อ แต่ต้องมีบัญชีออมทรัพย์ธนาคารกรุงศรีก่อนนะ (ถ้าใครยังไม่มีบัญชีสามารถดาวน์โหลด KMA krungsri app แล้วกดเปิดบัญชีออนไลน์ พอเปิดบัญชีเสร็จ ก็สามารถเปิดบัญชีกองทุนรวม และซื้อ-ขายต่อได้ทันที)
ถึงตรงนี้แล้วใครที่สนใจอยากได้ข้อมูลการลงทุนเพิ่มสามารถขอรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญฟรีได้ที่บริการ
Krungsri Plan Your Money โทร. 02-296-5959 สอบถามจนมั่นใจแล้วค่อยเริ่มลงทุนก็ได้นะ
การลงทุนต่อยอดเงินให้งอกเงยนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับวัยรุ่นยุคนี้ ยิ่งถ้าเริ่มเร็วและมีวินัยในการลงทุนมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้การเงินของเรามั่นคงได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
บทความโดย
ขวัญชัย รุ่งเรืองกอสว่าง AFPT™
กลุ่มบริการที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา