น้อง ๆ หลายคนเมื่อก้าวพ้นจากรั้วมหาวิทยาลัย เข้าสู่วัยทำงานเเละมีรายได้เป็นของตัวเอง ก็จะเริ่มมีความต้องการหลายอย่างเข้ามาเพื่อเติมเต็มความสุขในชีวิต เหมือนกับว่าเป็นการให้รางวัลตัวเองหลังจากตรากตรำขยันเรียนมาหลายปี ไม่ว่าจะเป็นการออกท่องเที่ยวโลกกว้างกับทริปในฝัน หรือการครอบครอง Gadget สุดเจ๋งเพิ่มความคูลซะหน่อย บางคนทุกสุดสัปดาห์ก็ไม่เคยว่างเพราะคาเฟ่เก๋ ๆ เดี๋ยวนี้มีเยอะก็ต้องไปเช็คอิน ถ่ายรูปสวย ๆ ซะหน่อย บางคนสายสตรองอยากมีสุขภาพดีก็เลือกไปฟิตเนส เข้าคลาสออกกำลังกาย และอื่น ๆ อีกมากมาย และสำหรับสาว ๆ ก็ยังต้องมีบิวตี้ไอเทมตัวดัง เพิ่มความสวยเด้งตามรอย blogger อีก คิดไปคิดมา…นี่เราทำงานได้เงินเดือนแสนแปดหรืออย่างไรถึงได้กิจกรรมแน่นขนาดนี้
ใช้ชีวิตแบบไฮดีมานด์ขนาดนี้ คุณพ่อ คุณแม่ ตลอดไปจนอากง อาม่า ก็คงขมวดคิ้ว กุมขมับ พูดพร่ำเช้าเย็น เงินเก็บอ่ะมีไหม? เก็บเงินบ้างรึเปล่า? ใช้เงินขนาดนี้จะเอาที่ไหนมาเก็บ! จะบอกอะไรให้นะ คนรุ่นใหม่อย่างเราน่ะ ไม่ว่าจะมี Wish list ยาวแค่ไหนก็ฟินได้แบบไม่ต้องกังวลใจเลย ถ้าเรารู้จักจัดสรรการเงินและมีวินัยเก็บออมอย่างสม่ำเสมอ แบบนี้ที่บ้านไม่บ่นแน่ ๆ วันนี้เราเลยรวบรวมวิธีเก็บเงินดี ๆ มาให้น้อง ๆ ลองทำดู อยากรู้ตามมาเลย…
1. ท่องไว้เสมอ “รายได้ - เงินออม = รายจ่าย”
หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเงินเก็บหรือเงินออม คือ เงินที่เหลือจากการใช้จ่าย แต่ที่ถูกต้องคือเราไม่ควรมองเงินออมเป็นเงินเหลือ แต่ควรมองว่าเป็นเงินที่ถูก “จัดหมวดหมู่” เอาไว้ว่านี่คือเงินออมโดยเฉพาะ ซึ่งการกำหนดเงินออมไว้ก่อนจะทำให้เรามองเห็นชัดเจนมากขึ้นว่าเราใช้จ่ายได้เดือนละเท่าไหร่
2. จดบันทึกให้เป็นนิสัย
เคยเป็นมั้ย เดือน ๆ นึงค่าใช้จ่ายรั่วไหลไปกับอะไรไม่รู้ ใช้อะไรไปบ้างบางทีเราเองก็จำไม่ได้... ปัญหานี้แก้ไขได้ด้วยการจดบันทึกรายรับรายจ่ายทุกวันให้เป็นนิสัย ซึ่งปัจจุบันมีแอปพลิเคชันรายรับรายจ่ายมากมายให้ได้เลือกใช้กันฟรี ๆ จากนี้ไปเราก็จะรู้ว่าเราหมดเปลืองไปกับค่าอะไร และเราก็จะได้ทบทวน ตัดรายจ่ายบางส่วนออก
3. ยกเลิกการเป็นสมาชิกที่ไม่ได้ใช้
หากเราต้องจ่ายเงินเพื่อเป็นสมาชิกกับหลาย ๆ ที่ เพราะตั้งใจว่าจะมาใช้บริการบ่อย ๆ แต่เอาเข้าจริงนาน ๆ ครั้งถึงจะได้ไปใช้บริการ อย่างฟิตเนสที่สมัครไว้เพราะอยากหุ่นดี แต่เวลาว่างไปก็น้อยเหลือเกิน ลองคำนวณดี ๆ ซื้อเป็นรายครั้งอาจจะคุ้มกว่าเป็นไหน ๆ ฉะนั้นถ้ารู้ตัวว่าไม่ได้ไปบ่อยจริง ๆ ก็ยกเลิกไปก่อนก็ได้ ประหยัดเงินไปเยอะนะ
4. ช้อปของฟุ่มเฟือยเท่าไหร่ ให้ออม 50% ของราคาของ
วิธีนี้น่าจะดีสำหรับสายช้อปเพราะจะทำให้เรามีสติทุกครั้งที่ช้อปปิ้งของฟุ่มเฟือย เช่น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า และ Gadget ต่าง ๆ ซึ่งอาจจะเป็นการช่วยให้เราฉุกคิดและเปลี่ยนใจเพื่อลดรายจ่ายจากการซื้อของที่ไม่จำเป็น ตัวอย่างง่าย ๆ ถ้าวันนี้เราซื้อเสื้อตัวละ 500 บาท เราต้องเก็บเงิน 250 บาททันที แบบไม่มีข้อยกเว้น
ใครสนใจวิธีไหนก็ลองนำไปปรับใช้กันดูนะ เลือกอย่างน้อย 1 วิธี หรือจะใช้หลาย ๆ วิธีร่วมกันก็ได้ จะได้มีเงินเก็บเยอะ ๆ ทีนี้จะเก็บเงินยังไงดีให้คุ้มค่า ต้องนี่เลย “
กรุงศรีประกันสะสมทรัพย์ เพื่อคุณและคนที่คุณรัก 20/5 และ 20/10” ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นประกันที่เหมาะสำหรับเก็บเงิน เรียกว่ารับทั้งเงินก้อนโตและความคุ้มครองเลยทีเดียว ส่วนค่าเบี้ยประกันก็ราคาเบาๆ เริ่มต้นเพียง 8,000 บาทต่อปี รับเงินก้อน (คุ้มครอง) หลักแสน เลือกจ่ายเบี้ยได้ตามที่เราต้องการ จะแบบสั้น ๆ 5 ปี หรือ 10 ปี แต่รับความคุ้มครองนานถึง 20 ปีไม่ว่าจะเลือกจ่ายเบี้ยแบบไหน แถมยังได้รับเงินปันผลรายปี และเมื่อครบกำหนดสัญญา 20 ปี รับเงินก้อนตั้ง 120% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย เงินก้อนนี้เอาไว้ไปทำตามความฝัน หรือต่อยอดการลงทุนก็ได้ ที่สำคัญคือ เบี้ยประกันสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ด้วย…ถ้าสนใจก็อย่ารอช้า เริ่มก่อนออมไว เงินก็งอกเงยไวนะจ๊ะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทุกสาขา
หมายเหตุ:
- การลดหย่อนภาษีเป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
- ควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจ อีกทั้งต้องแถลงข้อมูลตามความเป็นจริงในเอกสารขอเอาประกันภัย เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของผู้เอาประกันภัย
- เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทประกันภัยกำหนด
บทความโดย ปริตา ธิติปรีชาพล
กลุ่มบริการที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา