6 ทริคสู่ชีวิตที่ใช่ เลือกอนาคตที่ชอบ

แน่นอนว่าร้อยทั้งร้อยนักศึกษาที่กำลังใกล้จะเรียนจบต้องมีคำถามนี้ขึ้นมาในหัว ถึงแม้ในใจจะแสนยินดีที่จะได้ก้าวออกจากรั้วมหาวิทยาลัย แต่ยังไง ๆ ก็หนีไม่พ้นที่จะต้องมานั่งคิดถึงอนาคตกันอยู่ดี…

การออกไปท่องโลกสำหรับวัยรุ่นอย่างเรา ๆ ไม่ได้เพื่อเป็นการพักผ่อน บันเทิงใจอย่างเดียว แต่ยังทำให้เราได้เห็นอะไรที่แตกต่าง และเรียนรู้ที่จะมองโลกในมุมที่กว้างขึ้น การได้อยู่กับตัวเอง หนีความวุ่นวาย ทำให้เราได้รับประสบการณ์ที่ล้ำค่าในชีวิต เกิดไอเดียใหม่ ๆ หรือแรงบันดาลใจที่จะนำกลับมาต่อยอดชีวิตในอนาคตอีกด้วย

สมัยนี้ความรู้ในห้องเรียนนั้นไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิต และสำหรับวัยรุ่น วัยฮึกเหิมอย่างเรา ๆ ที่อยากรู้ อยากลองไปหมดซะทุกอย่าง งานนั้นก็อยากลองทำ คอร์สนี้ก็อยากลงเรียน หรือบางคนอยากทำธุรกิจเป็นของตัวเอง ถ้ามีโอกาสเหมาะ ๆ และมีความรู้เพียงพอก็ขอให้ลุยเลย จะได้รู้กันไปว่าเราจะทำได้ไหม สิ่งนั้นมันใช่ตัวเราหรือเปล่า ทั้งยังเป็นการเพิ่มประสบการณ์และขีดความสามารถให้กับตัวเองอีกด้วยล่ะ

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า Gap year ที่เขาพูด ๆ กันมันคืออะไรยังไง…Gap year คือวัฒนธรรมจากฝั่งตะวันตก ที่วัยรุ่นจะใช้เวลาออกไปค้นหาตัวเอง ไปทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ ส่วนมากจะเป็นช่วงหลังเรียนจบ ถือเป็นการสร้าง Story ให้ชีวิต บางคนอาจเลือกการเดินทางท่องเที่ยว ฝึกงานในด้านที่สนใจ หรือไปทำงานอาสาสมัครต่าง ๆ ซึ่งนอกจากจะได้รับประสบการณ์แล้ว ยังทำให้เราโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ได้ฝึกความรับผิดชอบ ได้ไปสัมผัสโลกแห่งความเป็นจริงซึ่งถ้าไม่ใช้เวลาช่วง Gap year เราอาจจะไม่มีโอกาสแบบนี้อีกแล้วนะ

ข้อหนึ่งที่สำคัญคือ การรู้ความถนัดของตัวเอง เพราะการที่เรารู้ว่าเราถนัดด้านไหนและทำอะไรได้ดีนั้น นับว่าเราเดินนำหน้าคนอื่นมาแล้วหนึ่งก้าว เราควรลองนำสิ่งที่เรารู้ดีที่สุดนี่ล่ะมาต่อยอด มาสร้างเป็นอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหาร ทำขนม การดีไซน์ออกแบบเสื้อผ้า หรืออะไรก็ตามแต่ที่เราถนัด แต่อย่าลืมนะว่าทุกอย่างต้องเกิดขึ้นจากการฝึกฝนและตั้งใจจริงด้วย ดังนั้นอย่ารอช้าลุยกันเลยวัยรุ่น จะรอดหรือจะร่วงอย่างน้อยเราก็ได้ลอง!

ข้อนี้อาจจะสำคัญที่สุดก็ว่าได้คือ เราต้องมีความกล้าที่จะก้าวออกมาจาก Comfort Zone พูดก็พูดเถอะ ใคร ๆ ก็อยากจะอยู่ในพื้นที่ที่สบายใจและรู้สึกปลอดภัยกันทั้งนั้น หลายคนคงคิดว่าในเมื่อที่เป็นอยู่ตอนนี้มันก็ดีแล้วจะออกไปเสี่ยงทำไมกัน แต่คนเราเกิดมาทั้งทีจะใช้ชีวิตจำเจเหมือนเข็มนาฬิกาที่วนมาจบที่เดิมก็จะเสียดายแย่ ขอให้ลองก้าวผ่านความกลัวกันสักนิด ทำในสิ่งที่คิดว่าเราทำไม่ได้ ลองยื่นขาก้าวผ่านกรอบที่คุ้นเคยไปสักหนึ่งข้าง แล้วจะรู้ว่าชีวิตเรายังไปได้อีก อย่างคำที่เค้าพูดกันว่า No pain, No gain ไงล่ะ

สุดท้ายเรื่องที่สำคัญไม่แพ้เรื่องอื่น ๆ นั่นก็คือการสร้างพื้นฐานทางการเงินที่ดี ยิ่งเราเริ่มเร็วเท่าไหร่ ก็ถือว่าเป็นการสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับชีวิตของเราเร็วขึ้นเท่านั้น หลายคนไม่รู้จะเริ่มยังไง ง่ายสุดก็คือเริ่มจากการออมเลย ไม่จำเป็นเลยว่าต้องมีเงินก้อนใหญ่ถึงจะออมได้นะ เพียงแค่เราเริ่มเก็บออมวันละนิดวันละหน่อย โดยอาจจะเลือกเปิดบัญชีไว้สำหรับการออมโดยเฉพาะ อย่างบัญชีออมทรัพย์มีแต่ได้ ออนไลน์ ของธนาคารกรุงศรีเนี่ยก็เป็นอีกตัวเลือกที่สะดวกและถือว่าคุ้มค่าสำหรับวัยรุ่นที่เริ่มต้นออมเงินอย่างเรา เพราะว่าสามารถเปิดบัญชีด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ ผ่าน KMA Krungsri app ไม่ต้องไปสาขา ไม่มีจำนวนเงินฝากขั้นต่ำ ดอกเบี้ยก็สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป แถมได้รับดอกเบี้ยทุกเดือน สูงสุดถึง 1.5% ต่อปี* มีเงินเยอะก็ฝากเยอะ มีน้อยก็ค่อย ๆ ฝากไป เพียงมีวินัย ฝากสม่ำเสมอเดี๋ยวก็เยอะเองเนอะ อ้อ สำหรับใครที่ยังไม่มีบัญชีธนาคารกรุงศรีก็ไม่ต้องกังวลนะ แค่ดาวน์โหลด KMA Krungsri app แล้วเลือกเมนู “เปิดบัญชีออนไลน์” แล้วทำตามขั้นตอนที่กำหนดไว้แค่นั้นเองง่ายมาก ๆ เลย