เริ่มเก็บเงินตั้งแต่ตอนอายุน้อย ๆ อนาคตจะได้สบาย...น่าจะเป็นคำพูดที่ผู้ใหญ่พร่ำบอกจนคุ้นหูกันอยู่แล้ว บางคนอาจจะยังมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว ยังไม่จำเป็น เพราะตอนนี้ที่บ้านก็ยังให้เงินใช้ทุกเดือน หรือบางคนก็ทำงานมีรายได้เสริม เลยคิดว่ายังไงก็มีเงินเหลือ ๆ อยู่แล้ว จะใช้ยังไงก็หาได้เรื่อย ๆ การคิดแบบนี้อาจจะดูเสี่ยงไปสักหน่อยนะครับ จริง ๆ การที่เราจะเก็บเงินได้ น่าจะเริ่มจากเราให้ความสำคัญกับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เสียก่อน แล้วค่อยมาดูแลบริหารการเงิน และศึกษาหาความรู้เพิ่มเพื่อต่อยอดเงินเก็บของเราให้กลายเป็นเงินที่มากขึ้นได้
มี 9 เหตุผลว่าทำไมเราควรเริ่มต้นดูแลการเงินตั้งแต่ยังเรียนหนังสือ มาเล่าให้ทุกคนฟังครับ
1. เราจะมีเงินเก็บเพิ่มขึ้น
เมื่อเราเริ่มจัดการเงินของเรา และเริ่มทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย จะทำให้เราเห็นรายการค่าใช้จ่ายในแต่ละวันของตัวเอง บางคนใช้เงินไปกับอาหารการกิน ขนม หรือชานมไข่มุก บางคนทุ่มค่าใช้จ่ายให้กับเสื้อผ้าการแต่งตัว แกดเจ็ต หรือเครื่องสำอาง เมื่อเราเห็นตัวเลขรายจ่ายเหล่านี้ก็จะช่วยให้เราจัดการบริหารเงินได้ตรงจุด ส่วนไหนฟุ่มเฟือยเกินไป หรือไม่จำเป็นก็จะได้ตัดออกไปบ้าง เป็นการเพิ่มเงินเก็บในแต่ละเดือนได้
2. เป็นการสร้างวินัยให้ตัวเอง
เมื่อเรามีวินัยในการจัดการเงิน จะเป็นพื้นฐานที่ดี และรับรองได้ว่าอนาคตจะไม่ลำบากแน่ ๆ การทำบัญชีรายรับ- รายจ่าย การเก็บออมสม่ำเสมอตั้งแต่อายุน้อย ๆ เมื่อทำอย่างต่อเนื่องจะกลายเป็นวินัยที่ติดตัวเราไปตลอด และมีประโยชน์มากเพราะยิ่งอายุมากขึ้น ภาระค่าใช้จ่ายและความรับผิดชอบ ต่าง ๆ ก็มีมากขึ้น จนอาจจะทำให้เราละเลยสิ่งสำคัญอย่างการออมเงินเป็นประจำ ทั้งนี้การมีวินัยทางการเงินนั้นเป็นพื้นฐานที่ดีในการสร้างวินัยให้กับเรื่องอื่น ๆ ในชีวิตด้วย
3. มีเงินทำตามสิ่งที่ฝัน
ทุกคนย่อมมีฝัน ไม่ว่าจะเล็กหรือจะใหญ่ และบางความฝันก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเงินคือปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เราทำตามความฝันได้สำเร็จ เช่น การเรียนต่อ การสร้างธุรกิจเล็ก ๆ ของตัวเอง การเดินทางท่องเที่ยวไปในที่ต่าง ๆ หรือแม้แต่การมีบ้านเป็นของตัวเอง หากเรามีเงินเก็บโอกาสต่อยอดไปถึงความฝันที่เราต้องการก็อยู่ไม่ไกล
4. เพื่อเตรียมรับมือกับภาระในอนาคต
เมื่อเราโตเป็นผู้ใหญ่ ใช้ชีวิตผ่านช่วงอายุต่าง ๆ ภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบก็ย่อมมีมากขึ้นตามไปด้วย บางคนต้องผ่อนรถ ผ่อนบ้าน คอนโด บางคนต้องดูแลพ่อแม่ ไหนจะค่ารักษาพยาบาล ค่าเบี้ยประกัน ค่าใช้จ่ายในบ้าน และยังต้องมีค่ากิน ค่าเที่ยวต่าง ๆ เพื่อเติมเต็มชีวิตของเราเอง ดังนั้นการมีเงินเก็บจะช่วยให้เรามั่นใจว่าเราจะพร้อมรับมือกับภาระต่าง ๆ ได้อย่างมั่นใจ
5. มีเงินสำรองไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน
เชื่อไหมว่าคนไทย 80% ไม่มีเงินออมมากพอที่จะดูแลตัวเองยามวิกฤต ถือเป็นตัวเลขที่น่าตกใจมาก เพราะต่อให้เรามีพ่อแม่คอยช่วยเหลือ แต่เมื่อถึงเวลาฉุกเฉินเราอาจจะต้องเป็นฝ่ายช่วยเหลือท่านก็เป็นได้ หากเราไม่มีเงินเก็บก็คงต้องหาทางออกด้วยการกู้ยืมเงินซึ่งก็ต้องเสียดอกเบี้ย แถมการเป็นหนี้ก็ยิ่งเพิ่มความเครียดให้วิกฤตหนักขึ้นไปอีก ถ้าเรามีเงินสำรองเก็บอยู่ไว้ให้อุ่นใจ เมื่อมีเหตุฉุกเฉินหรือรายจ่ายที่ไม่คาดคิดเข้ามา เราก็สามารถใช้เงินเก็บที่มีอยู่สำรองจ่ายไปก่อน โดยที่ไม่จำเป็นต้องสร้างหนี้ให้ตัวเอง สามารถเอาตัวรอดผ่านวิกฤต ไปได้
6. สามารถเป็นที่พึ่งของครอบครัว
พ่อกับแม่ก็แก่ลง ๆ ทุกวัน เช่นเดียวกับเราที่เติบโตขึ้น ซึ่งเมื่อถึงเวลาเราต้องสามารถดูแลท่านให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นความเป็นอยู่ที่ดีรวมไปถึงค่ารักษาพยาบาลต่าง ๆ นอกจากนั้นบางคนก็อาจจะเริ่มสร้างครอบครัวของตัวเองด้วย ซึ่งจะทำให้มีค่าใช้จ่ายตามมาอีกมากมาย เช่น ค่าจัดงานแต่งงาน ค่าเลี้ยงดูลูก ดังนั้นเราจำเป็นต้องมีการวางแผนการเงินที่ดี ซึ่งถ้าเริ่มเก็บเงินตั้งแต่เนิ่น ๆ อนาคตของเราก็ไม่น่ากังวลอย่างที่คิด
7. ใช้ชีวิตสบายใจ ไร้กังวล
การมีเงินเก็บถือเป็นแผนสำรองที่ดีในการใช้ชีวิต เพราะถ้ามีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ชีวิตเราก็ยังไปต่อได้ เช่น การถูกเลิกจ้างงานกะทันหัน การเจ็บป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล เป็นต้น เงินเก็บจะช่วยให้เราไม่ต้องเสียเวลาเป็นกังวลกับชีวิตมากนัก เราสามารถเอาเวลาไปคิดทำอะไรอย่างอื่นที่อยากทำ เช่น การเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ เพื่อต่อยอดในอาชีพการงาน หรือใช้ชีวิตท่องเที่ยวเพื่อเปิดโลก ก็สามารถทำได้อย่างสบายใจ เรียกได้ว่ามีอิสระทางการเงิน ชีวิตก็มีอิสระมากขึ้นนั่นเอง
8. เริ่มลงทุนเร็ว ได้ผลตอบแทนดีกว่า
เมื่อมีเงินเก็บเงินก้อนแล้ว ขั้นต่อไปคือการศึกษาหาความรู้วิธีการลงทุนเพื่อต่อยอดทำให้เงินที่มีอยู่งอกเงยเพิ่มขึ้น เช่น
การซื้อกองทุนรวม หรือลงทุนในหุ้น ยิ่งถ้าอายุยังน้อยก็มีโอกาสศึกษาและเรียนรู้ได้เร็วกว่าคนอื่น และการที่เราลงทุนตั้งแต่อายุยังน้อย เราจะมีเวลาในการลงทุนนาน แถมอายุน้อยก็จะรับความเสี่ยงได้มากกว่าคนอายุมาก ซึ่งนั่นหมายความว่าเราจะมีโอกาสประสบความสำเร็จด้านการลงทุนสูงและเร็วกว่าด้วยเช่นกัน
9. เกษียณสบาย ใช้ชีวิตตามใจฉัน
นอกจากเรื่องเงินสำรอง เงินอีกก้อนที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ เงินสำหรับใช้จ่ายยามเกษียณ ฟังดูอาจเป็นเรื่องไกลตัว แต่รู้ไหมครับว่าเมื่อถึงวันที่เกษียณมีคนไทยถึง 75% ที่มีไม่มีเงินเพียงพอสำหรับใช้ในยามเกษียณ แล้วต้องมานั่งเครียดตอนแก่ว่าจะดูแลตัวเองยังไง ดังนั้นการวางแผนเกษียณตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงนับเป็นการใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท ยิ่งเราอายุยังน้อยยังมีเวลาในการเก็บเงินอีกมาก และยังสามารถรับความเสี่ยงได้สูงกว่าวัยอื่น ๆ ดังนั้นถ้าเริ่มต้นวางแผนและเก็บเงินก่อน ก็สามารถเกษียณก่อนกำหนด หรือมีชีวิตยามเกษียณแบบสบาย ๆ อย่างที่ตั้งใจไว้ได้ครับ
อ่านมาถึงตรงนี้ หลาย ๆ คนคงอยากเริ่มต้นออมเงินกันแล้ว วันนี้เราขอแนะนำตัวช่วยดี ๆ กับ
บัญชีเงินฝากออมทรัพย์มีแต่ได้ ออนไลน์ ที่ให้ดอกเบี้ยสูงตั้งแต่บาทแรก หรือถ้าใครอยากลองลงทุนในกองทุนรวมที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าการฝากเงินในบัญชีก็นี่เลย
กองทุนรวมจาก บลจ.กรุงศรี ซึ่งเราสามารถสร้างวินัยผ่านการลงทุนในกองทุนรวมแบบ
DCA-Dollar Cost Averaging เป็นการลงทุนในกองทุนรวมอย่างต่อเนื่องทุกเดือนด้วยจำนวนเงินเท่า ๆ กัน ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาเกาะติดความเคลื่อนไหวของตลาด โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อกองทุนเดือนละเท่าไร ทุกวันที่เท่าไหร่ของเดือน เช่น เลือกซื้อกองทุนรวมมูลค่า 2,000 บาท ทุกวันที่ 1 ของเดือน เป็นต้น
การบริการจัดการเงินฟังดูเหมือนยาก แต่ถ้าหากมุ่งมั่นและเริ่มต้นทำอย่างต่อเนื่องแล้ว มันจะกลายเป็นวินัยที่ดี ที่ติดตัวเราไปตลอด พร้อมทั้งยังให้ผลตอบแทนที่ดีอีกด้วยนะ หากใครมีคำถามหรือต้องการปรึกษาเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ สามารถติดต่อที่ Krungsri Plan Your Money โทร. 1572 กด 5 บริการฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย