ใกล้วาเลนไทน์เข้ามาทุกที ตอนนี้ใครหลายคนคงแอบเตรียมเซอร์ไพรส์คนรักกันแต่เนิ่น ๆ หากอยากให้ปีนี้เป็นปีพิเศษ มีกิจกรรมที่ต่างไปจากปีก่อน ลองชวนแฟนหนีกรุง ออกทริปต่างจังหวัดใกล้ ๆ ด้วยกันเพื่อกระชับความสัมพันธ์ก็คงจะดีไม่น้อย เรามีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติบรรยากาศโรแมนติกใกล้กรุงเทพฯ มาแนะนำกันครับ
1. น้ำตกเหวสุวัต เขาใหญ่: แด่ความรักที่ไม่หมู
อีกหนึ่งแหล่งโอโซนดีที่สุดของเมืองไทย เขาใหญ่เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวทีเดียวสำหรับวาเลนไทน์นี้ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวมีมากมายจริง ๆ แต่ไฮไลท์ที่อยากให้แวะไปครั้งนี้ คือ “น้ำตกเหวสุวัต” ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่เส้นทางสามารถเข้าถึงได้ทางรถยนต์ เป็นน้ำตกที่มีน้ำตลอดทั้งปี แอ่งน้ำขนาดใหญ่อาจปะปนด้วยโขดหิน แม้ไม่เหมาะกับการลงเล่นน้ำ แต่เป็นมุมนั่งชมวิวฟังเสียงนกร้อง เสียงน้ำไหล ที่ผ่อนคลายสุด ๆ ครับ ซึ่งมีเส้นทางเดินป่าระยะทาง 3.8 กม. ให้ฝ่าฟันกันด้วย รับรองว่าโดนใจคู่รักขาลุยแน่นอน
หรือถ้าเที่ยวอุทยานแห่งชาติเหนื่อย ๆ แล้วไม่รู้จะไปไหนดี ลองแวะจิบกาแฟเก๋ ๆ ที่ร้าน The Birder’s Lodge (เดอะเบอร์เดอร์ส ลอดจ์) ที่คู่รักสายฮิปสเตอร์ห้ามพลาด เพราะทุกมุมของร้านตกแต่งอย่างมีสไตล์ เป็นบ้านไม้แบบกระท่อมยุโรปท่ามกลางขุนเขา น่าถ่ายรูปมาก ๆ ครับ
ขับรถไปเขาใหญ่ อย่าลืมขับช้า ๆ เมื่อเข้าเขตอุทยานนะครับ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการเดินทางยามค่ำคืน เพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุในสัตว์ป่าที่เดินข้ามถนนไปมาครับ
2. อุทยานหินเขางู: เพราะราชบุรี มีดีมากกว่าสวนผึ้ง
นอกจากสวนผึ้ง สถานที่ยอดฮิตของคู่รักหลายคู่แล้ว ราชบุรียังมีดีที่แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่น ๆ ด้วย บรรยากาศดีไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ไปเช้า-เย็นกลับได้ แถมยังนั่งรถไฟฟรีไปได้ด้วย (สำหรับคู่รักขาลุย) อุทยานหินเขางู เป็น The Must ที่อยากแนะนำให้แวะไปชมกันครับ รับรองกลับมารูปภาพเต็มเมมกล้องแน่ ๆ
อุทยานหินเขางู ตั้งอยู่ที่ ต.เกาะพลับพลา ห่างจากตัวเมืองราชบุรีเพียง 8 กม. เป็นศาสนสถานอันเก่าแก่และเหมืองร้างที่สมัยต้นรัตนโกสินทร์เคยเป็นแหล่งระเบิดเขาเพื่อนำปูนมาใช้ จนเพิ่งได้มีการให้ยกเลิกสัมปทานกันไปเพื่อฟื้นฟูทัศนียภาพ ด้านในมีถ้ำอันเป็นสถานที่ทางโบราณคดีให้ชมหลายแห่ง รวมทั้งพระพุทธรูปสมัยทวารวดี
หากใครเดินทางไปแบบไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ก็สามารถหารถโดยสารประจำทางจากตัวเมืองเข้าไปที่นี่ได้ครับ
3. รักลอยแพ แบบฉบับเมืองกาญจน์
คู่รักที่ชอบการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ขุนเขาและสายน้ำ คงไม่พลาดการล่องแพที่กาญจนบุรี ที่ทำให้รู้สึกว่าได้รีชาร์จพลังกันไปเต็ม ๆ ได้นอนคุยกันท่ามกลางเสียงสายน้ำไหลยิ่งเพิ่มความโรแมนติกเข้าไปใหญ่ แนะนำที่ริเวอร์แคว จังเกิลราฟท์เพราะบรรยากาศดี ส่วนคู่รักคู่ไหนอยากจะผจญภัยก็ไปต่อกันที่ Tree Top Adventure Park ห้อยโหนไต่สลิงเพิ่มความสนุกในทริปวาเลนไทน์แบบไม่ซ้ำใคร
เอื้อเฟื้อภาพจากรีสอร์ท Kohmak Cococape
4. จุ่มเท้าในน้ำ นั่งชิวที่เกาะหมาก เกาะขาม
เกาะหมากอาจดูไกลกว่าที่อื่นไปสักนิด เพราะต้องขับรถไปอย่างน้อย 5 ชม.จากกรุงเทพฯ แต่บรรยากาศความโรแมนติกที่ได้ก็คุ้มค่ากับการเดินทาง แถมยังเงียบสงบ เป็นเกาะที่มีความเป็นส่วนตัว ไม่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน มีกิจกรรมดำน้ำตื้น ว่ายน้ำ พายเรือคายัค นั่งชิวที่บาร์ ชิมอาหารทะเล และเช่าเรือไปเกาะขามที่มีหาดทรายขาวละเอียด น้ำใสราวกับอยู่บนเกาะส่วนตัว แนะนำพักที่ CocoCape รีสอร์ท (เกาะหมาก โคโค่เคปรีสอร์ท) แล้วอย่าพลาดจูงมือแฟนไปดูพระอาทิตย์ตกที่สะพานโคโค่เคปครับ
5. รักนี้อิ่มท้องที่ ‘อัมพวา’
วาเลนไทน์นี้ นอกจากธรรมชาติและความลุยแล้ว มาโฟกัสเรื่องปากท้องกันบ้างดีกว่า แถมช่วงนี้การเที่ยวแบบวิถีชุมชนกำลังเป็นที่นิยมกันเลยครับ ตลาดน้ำอัมพวาที่สมุทรสงครามตอบโจทย์เรื่องบรรยากาศที่มีกลิ่นอายของวิถีชีวิตชุมชนริมน้ำ ผสานกับของอร่อยแบบไทย ๆ ตำรับดั้งเดิมของคนท้องถิ่น กลางวันนั่งห้อยเท้ารับประทานอาหารทะเลริมน้ำ กลางคืนนั่งเรือตามหาแสงหิ่งห้อย ฟินอย่าบอกใคร
ก่อนไปอย่าลืมเก็บเงินสำหรับเที่ยวให้เพียงพอ เตรียมสุขภาพให้แข็งแรง ทริปวาเลนไทน์จะได้ไม่มีสะดุด สร้างความทรงจำและกระชับความสัมพันธ์ไปอีกนานครับ แต่ถ้าคุณเป็นสาวโสดที่อยากหนีสัปดาห์หวาน ๆ ก็ลองชวน
แก๊งค์เพื่อนสาวไป
เที่ยวทริปฟาร์มสเตย์ใกล้กรุงก็มีให้เลือกอยู่หลายที่ ใกล้ชิดธรรมชาติให้หัวใจเป็นสีเขียว ดีท็อกซ์ทั้งกายและใจดูก็ดีนะครับ