Baby Boomer กับ Millennials บริหารเงินต่างกันอย่างไร?
เพื่อชีวิตสบาย
icon-Facebook icon-Twitter icon-line

Baby Boomer กับ Millennials บริหารเงินต่างกันอย่างไร?

icon-access-time Posted On 16 ธันวาคม 2557
By Krungsri Guru
แนวคิดการบริหารเงินแต่ละเจนเนอเรชั่นนั้นแน่นอนว่าไม่มีทางเหมือนกันอยู่แล้ว โดยแนวทางประชากรสองกลุ่มใหญ่ ๆ ในปัจจุบัน แบ่งได้ง่าย ๆ เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม Baby Boomer กับ Millennials ซึ่งคนสองกลุ่มนี้มีการเลี้ยงดู การเติบโต และสภาพสังคมที่ต่างกันมาก ทั้งสองกลุ่มวัยนี้ มีวิธีบริหารเงินที่แตกต่างกันอย่างไร มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ตามมาดูกันเลยครับ
แนวคิดการบริหารเงินแต่ละเจนเนอเรชั่นนั้นแน่นอนว่าไม่มีทางเหมือนกันอยู่แล้ว โดยแนวทางประชากรสองกลุ่มใหญ่ ๆ ในปัจจุบัน แบ่งได้ง่าย ๆ เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม Baby Boomer กับ Millennials ซึ่งคนสองกลุ่มนี้มีการเลี้ยงดู การเติบโต และสภาพสังคมที่ต่างกันมาก ทั้งสองกลุ่มวัยนี้ มีวิธีบริหารเงินที่แตกต่างกันอย่างไร มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ตามมาดูกันเลยครับ
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจถึงคำว่า Baby Boomer กับ Millennials กันครับ โดยตามหลักสากลจะมีการแบ่งช่วงอายุของประชากรเป็น Generation ต่าง ๆ ซึ่งไลฟ์สไตล์และแนวคิดการเงินของคนต่าง Generation จะมีคุณลักษณะที่แตกต่างกันออกไป โดยผมจะกล่าวถึง 2 กลุ่ม Generation ที่เป็นประชากรหลัก ๆ ก็คือ
1. คนกลุ่ม Baby Boomer คือ คนที่เกิดช่วงปี 2489 – 2507 หลังสงครามโลกครั้งที่สองยุติ ภาวะสงครามทำให้ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก ขณะที่ผู้คนที่มีชีวิตรอดจากสงครามต่างต้องเร่งฟื้นฟูประเทศให้กลับมามีความเจริญอีกครั้ง ทำให้คนยุคนั้นต้องการแรงงานจำนวนมาก จึงนำมาซึ่งค่านิยมของการมีลูกหลาย ๆ คนเพื่อมาช่วยเป็นแรงงานฟื้นฟูประเทศ ยุคนี้จึงเป็นที่มาของคำว่า “ลูกดก” หรือ “Baby Boom” เราจึงเรียกเด็กที่เกิดในยุคนั้นว่า “Baby Boomer”
เพื่อน ๆ คงสังเกตได้จากคุณตาคุณยายเราที่มีลูกกันเยอะ ๆ ก็มาจากแนวคิดเรื่องการเงินในยุค Baby Boom นี้เองหละครับ โดยในปัจจุบันนี้คนกลุ่ม Baby Boomer คือคนที่มีอายุตั้งแต่ 57 ปีขึ้นไป และก็เริ่มเข้าสู่วัยชราแล้ว คนกลุ่ม Baby Boomer นี้เติบโตขึ้นมาท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงและแข่งขันกับคนวัยเดียวกันเพื่อให้ได้งาน เนื่องจากในยุคนั้นแต่ละประเทศก็ต่างกำลังพัฒนาเพื่อก้าวไปสู่ยุคอุตสาหกรรม คนกลุ่ม Baby Boomer ก็เลยจำเป็นต้องทำงานหนักมากขึ้น คนกลุ่มนี้จึงเป็นคนที่มีชีวิตเพื่อการทำงานกันเลยทีเดียวนะครับ เป็นคนที่เคารพกฎเกณฑ์ กติกา มีความอดทนสูง สู้งาน ทุ่มเทให้กับการทำงานและองค์กรมาก คนกลุ่มนี้จะเป็นพวกกอนุรักษ์นิยม เป็นคนที่ชอบประเพณีที่ดีงาม ชอบความเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่งผลให้แนวคิดการเงินของคนต่าง Gen มีความแตกต่างกัน ซึ่งจากการสำรวจคนกลุ่มนี้ถือว่าน่าจะมีจำนวนมากที่สุดในสังคมปัจจุบันเลยทีเดียวครับ
2. คนกลุ่ม Millennium คือ คนที่เกิดปี 2524 เป็นต้นมา โดยในปัจจุบันจะมีอายุตั้งแต่ 24 – 40 ปี ถือว่าเป็นยุครุ่นลูกรุ่นหลานของชาวเบบี้บูม คนกลุ่มนี้เติบโตขึ้นมาท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง และค่านิยมที่แตกต่างระหว่างรุ่นปู่ย่าตายาย กับ รุ่นพ่อแม่ ซึ่งในยุคนี้จะเป็นยุคที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตเป็นอย่างมาก ทำให้พ่อแม่ที่ค่อนข้างจะประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วจะดูแลเอาใจใส่ลูก ๆ เป็นอย่างดี จึงส่งผลต่อแนวคิดการเงินของคนต่าง Gen
เด็กยุคนี้มักจะถูกตามใจตั้งแต่เด็ก มีการศึกษาดี มีลักษณะนิสัยชอบการแสดงออก มีความเป็นตัวของตัวเองสูง รักอิสระ ปรับตัวเก่ง และคล่องแคล่วเรื่องเทคโนโลยี ที่สำคัญคนกลุ่มนี้เกิดมาก็มีระบบอินเทอร์เน็ตใช้กันอย่างกว้างขวางแล้ว Social Network จึงมีอิทธิพลกับคนกลุ่มนี้มากเลยทีเดียวครับ และเนื่องจากการเติบโตของ Social Network ทำให้การติดต่อกันทั่วโลกเป็นสิ่งที่สะดวกมากขึ้น คนกลุ่มนี้จึงมีความเป็นสากลมากขึ้น การมีเพื่อนที่เป็นคนต่างชาติและต่างวัฒนธรรมถือเป็นเรื่องปกติ ในด้านของงานอาชีพ คนกลุ่มนี้ชอบทำงานในด้านของ IT และธุรกิจทางด้านความบันเทิง ในเรื่องการทำงาน ชอบทำงานเป็นทีม ชอบการระดมความคิดเห็น แต่สิ่งที่แตกต่างจากคนยุคก่อน ๆ ก็คือ พวกเขามักจะไม่ค่อยอดทน ไม่ค่อยหมกมุ่นอยู่กับงานเหมือนกับคนรุ่นก่อน แต่จะให้ความสำคัญกับ Work-Life Balance มากขึ้น และยอมเปลี่ยนหากเห็นโอกาสที่ดีกว่า จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมแนวคิดการบริหารเงินของ Baby Boomer กับ Millennials แตกต่างกันด้วย
แนวคิดการบริหารเงินแต่ละเจนเนอเรชั่นเป็นอย่างไร มาดูกันครับ

คนกลุ่ม Baby Boomer

แนวคิดการเงินของคนต่าง Gen ก็จะต่างกันไป อย่างคนกลุ่ม Baby Boomer นั้นมักจะถูกครอบครัวสั่งสอนมาให้เป็นคนประหยัด อดออม จึงมีการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ และระมัดระวัง ที่สำคัญคนกลุ่มนี้เริ่มเข้าสู่วัยเกษียณกันแล้ว แนวทางการบริหารเงินของ Baby Boomer จึงเน้นไปเพื่อการดูแลสุขภาพ ท่องเที่ยว พักผ่อนกับครอบครัว และเน้นให้เงินออมทำงานเพื่อสร้างรายได้ประจำ คนกลุ่มนี้มักมีฝันที่จะมีหลานตัวน้อย ๆ ให้อุ้ม พร้อมมีมรดกเหลือไว้ให้ใช้ พวกเขามักจะวางแผนการเกษียณโดยให้มีเงินเหลือใช้ในการดูแลสุขภาพตัวเอง ไว้ท่องเที่ยวกับลูกหลาน และมีเงินเหลือเป็นมรดกให้ลูกให้หลาน
ผมจึงอยากจะแนะนำแนวคิดการบริหารเงินสำหรับคนกลุ่ม Baby Boomer เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด คือให้เน้นลงทุนที่มีระดับความเสี่ยงต่ำ ซึ่งทางธนาคารกรุงศรีอยุธยาก็มีข้อแนะนำทางการเงินและมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายที่เหมาะสำหรับคนกลุ่ม Baby Boomer ทั้งการออมและการลงทุน ตัวอย่างก็คือ บริการเงินฝาก เช่น ออมทรัพย์จัดให้ ออมทรัพย์มีแต่ได้ บริการตราสารหนี้ เช่น ตลาดเงิน – KFCASH ตราสารหนี้ที่มีกำหนดระยะเวลา บริการประกันภัย เช่น กรุงศรี สุดคุ้ม 11/5 (มีเงินปันผล) กรุงศรี คุ้มค่า 10/5 กรุงศรี สมาร์ท การันตี ไลฟ์ 11/5 บริการตราสารทุน เช่น ตราสารทุนเน้นหุ้นปันผล – KFSDIV หุ้นระยะยาวเน้นหุ้นปันผล – KFLTFDIV

คนกลุ่ม Millennials

เด็กในยุค Millennials นี้ก็คือกลุ่มคนที่เริ่มต้นชีวิตในวัยทำงานกัน พวกเขาเติบโตมาพร้อม ๆ กับเทคโนโลยีอย่างคอมพิวเตอร์ และมือถือ และด้วยความที่มีการแข่งขันออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ตามการพัฒนาของเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ พฤติกรรมการบริโภคจึงเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่นเปลี่ยนมือถือบ่อยเพราะมีหลากหลายรุ่นที่เปิดตัวใหม่มากมาย แต่แนวคิดการเงินของคนกลุ่ม Millennials นั้น ผู้ใหญ่มักจะมองว่าน่ากลัว เพราะพวกเขาเพิ่งอยู่ในวัยเริ่มทำงาน การใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยถือเป็นสิ่งอันตรายมาก โดยเฉพาะบางคนอาจไม่รู้จักอดออมและมีแนวคิดการบริหารเงินที่ยังไม่ดีนัก บางคนนิยมการเป็นหนี้เพื่อซื้อความสุขในระยะสั้นมากกว่าการอดทนและเก็บออม ผมจึงให้ความสำคัญกับแนวคิดการบริหารเงินของคนกลุ่ม Millennials มาก
ผมอยากให้เพื่อน ๆ ที่เป็นคนกลุ่ม Millennials หันมาบริหารการเงินให้ดี โดยผมแนะนำบริการ Plan Your Money ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ที่จะช่วยวางแผนการบริหารการเงิน และแนะนำแนวคิดการบริการเงินแต่ละเจนเนอเรชั่นที่เหมาะสม เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในวัยทำงาน สร้างสมดุลชีวิตและการทำงาน มีเงินเหลือให้รางวัลตัวเองด้วยการท่องเที่ยวพักผ่อนต่างประเทศ ช้อปปิ้ง การซื้อบ้านหลังแรกหรือรถยนต์คันแรก หรือการเริ่มมีกิจการหรือธุรกิจเป็นของตนเอง เป็นต้น
โดยผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะกับคนกลุ่ม Millennials มีหลากหลาย ตัวอย่างก็คือ บริการเงินฝาก เช่น ออมทรัพย์จัดให้ ออมทรัพย์มีแต่ได้ บริการตราสารหนี้ เช่น ตราสารหนี้ที่มีกำหนดระยะเวลา บริการประกันภัย เช่น กรุงศรี คุ้มสบาย 12/7 (มีเงินปันผล) กรุงศรี เกรท ฟิวเจอร์ 18/7 (มีเงินปันผล) กรุงศรี สมาร์ท เซฟวิ่ง ไลฟ์ 12/6 กรุงศรี พีเอ เอ็กซ์ตร้า พร้อม และ กรุงศรี โฮม พร้อม บริการตราสารทุน เช่น ตราสารทุนเน้นหุ้นเติบโตสูง – KFSEQ ตราสารทุนเน้นหุ้นปันผล – KFSDIV หุ้นระยะยาวเน้นหุ้นปันผล –KFLTFDIV หุ้นระยะยาวเน้นหุ้นเติบโตสูง - KFLTFEQ
ผมหวังว่าคำแนะนำเรื่องแนวคิดการบริหารเงินแต่ละเจนเนอเรชั่นจะทำให้คนกลุ่มวัยต่าง ๆ ได้จัดสรรและบริหารการเงินของตัวเองให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิต เพื่อให้มีความสุขกันถ้วนหน้ากันนะครับ
pym logo
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา