ด้วยเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ทุกคนต้องรัดเข็มขัดแน่น ๆ ไว้ก่อน
มีเงินก้อนก็ต้องเก็บไว้ยามฉุกเฉินสักนิด ถ้าคิดจะซื้อรถสักคัน รถมือสองก็ตอบโจทย์พอไหวอยู่ เนื่องจากไม่ต้องใช้งบเยอะเท่ากับการถอยรถป้ายแดงใหม่ ช่วยให้เหลือเงินไปใช้ในเรื่องอื่นได้อีกมากมาย หรือในบางคนเป็นสายเปลี่ยนรถบ่อย รถมือสองก็ช่วยให้ประหยัดงบไปได้เยอะเลยทีเดียว
แม้ว่ารถมือสองจะมีราคาที่ค่อนข้างประหยัดและถูกกว่ารถใหม่ แต่หลาย ๆ คนก็ไม่กล้าเลือกซื้อด้วยเหตุผลเรื่องกลัวถูกหลอก จนทำให้เกิดคำถามขึ้นในใจว่า …
ใครที่กำลังอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อรถมือสองอยู่ ห้ามพลาดบทความนี้เด็ดขาด เรารวบรวมมาเล่าให้แบบเข้าใจใน 10 นาที
ซื้อรถมือสอง รถบ้านกับรถเต็นท์ แตกต่างกันยังไง?
มาเริ่มกันที่รถบ้านก่อนเลย รถบ้าน คือ รถมือสองที่เจ้าของรถนำมาขายเอง การซื้อรถบ้านเป็นการซื้อกับเจ้าของรถโดยตรง ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางที่จะบวกกำไรอีกต่อ และยังสามารถตรวจสอบสภาพรถได้โดยนำรถเข้าไปเช็กสภาพที่ศูนย์ได้ ซึ่งการซื้อรถบ้านสามารถหาข้อมูลประกาศขายผ่านทางเว็บไซต์ หรือจะหาซื้อผ่านคนรู้จักก็ได้
ข้อดี-ข้อเสีย ของรถบ้าน มีอะไรบ้างที่ควรรู้?
ข้อดีของการซื้อรถบ้านมือสอง
1. ประวัติดี คนซื้อสบายใจ
การตรวจสอบสภาพรถสามารถทำได้โดยนำเข้าไปเช็กสภาพที่ศูนย์ ขณะที่การซื้อรถเต็นท์ เราไม่สามารถเช็กอะไรได้นอกจากดูสภาพรถโดยรวมที่เห็นตอนไปเลือกดูเท่านั้น
2. ราคาตามการใช้งานจริง
รถบ้านเป็นรถที่เจ้าของขายเอง ดังนั้นจะตั้งราคาตามสภาพ มักไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไหล่หรือตกแต่งสภาพรถให้ดูดีเหมือนรถเต็นท์ และการบวกเอากำไรเพิ่มเป็นเท่าตัวนั้นแทบจะไม่ค่อยเกิดขึ้น
ข้อเสียของการซื้อรถบ้านมือสอง
1. ไม่มีการรับประกัน
รถบ้านส่วนใหญ่จะขายตามสภาพการซื้อ-ขาย ไม่มีการรับประกัน เมื่อการซื้อขายเสร็จสิ้นแล้ว เจ้าของรถไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบอะไรอีกหากเกิดปัญหาในการใช้งานรถยนต์ที่ซื้อไป
2. ต้องขอไฟแนนซ์เอง
เมื่อเลือกซื้อรถบ้านมือสองต้องดำเนินการทางด้านเอกสารต่าง ๆ เอง หากต้อง
การขอสินเชื่อไฟแนนซ์ในการซื้อรถบ้าน ขั้นตอนอาจจะยุ่งยาก และใช้เวลานานกว่าการซื้อรถจากรถเต็นท์ที่มีเจ้าหน้าที่จัดการให้อย่างรวดเร็ว
3. ติดต่อธนาคารด้วยตัวเอง
ในกรณีที่ผู้ซื้อต้องใช้วงเงินกู้ในการซื้อรถ ผู้ซื้อจำเป็นที่จะต้องติดต่อสถาบันการเงินเพื่อยื่นเรื่องกู้ด้วยตัวเอง
มาต่อกันที่รถเต็นท์กันบ้าง รถเต็นท์ คือ จะไม่ได้เป็นการซื้อขายระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อโดยตรง เพราะการซื้อขายจะเป็นการซื้อขายผ่านพ่อค้าคนกลาง โดยที่รถเต็นท์ก็จะมีหลากหลายรูปแบบ เช่น รถเต็นท์ผ้าใบ, รถเต็นท์แบบโชว์รูม
มาดูในส่วนของ ข้อดี ข้อเสีย ของรถเต็นท์กัน
ข้อดีของการซื้อรถเต็นท์มือสอง
1. มีบริการช่วยจัดไฟแนนซ์
หากต้องการขอสินเชื่อไฟแนนซ์เพื่อเช่าซื้อรถมือสอง การซื้อรถที่เต็นท์จะได้รับการอำนวยความสะดวกในเรื่องเอกสาร และยังได้รับการอนุมัติจากไฟแนนซ์ได้ง่ายกว่ายื่นขอไฟแนนซ์ด้วยตัวเอง
2. ได้รถเร็ว ทันใช้
รถเต็นท์มักมีเจ้าหน้าที่สินเชื่อที่ใช้บริการเป็นประจำ ทำให้มีความคืบหน้าในการขอสินเชื่อรวดเร็วกว่าทำเรื่องขอด้วยตนเอง
3. มีรถหลายรุ่นหลายยี่ห้อให้เลือก
รถเต็นท์จะมีตัวเลือกให้มากมายหลากหลายรุ่น หลากหลายยี่ห้อ หรือจะเลือกตามราคาที่ตั้งงบประมาณเอาไว้ก็ยังได้
4. รถเต็นท์มีประกันให้ (ในบางที่)
การซื้อรถจากเต็นท์รถ ทางเต็นท์มีการรับประกันตัวรถหากเกิดปัญหาขึ้นจากการใช้งานภายใน 7 วัน หรือ 30 วัน
ข้อเสียของการซื้อรถเต็นท์มือสอง
1. อาจมีการย้อมแมว
การย้อมแมว คือ การที่รถเต็นท์นำรถสภาพแย่มาทำให้ดูดีเพื่อขายในราคาที่สูง เราไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ารถในเต็นท์รถคันนั้นมาจากที่ไหน เจ้าของเก่าดูแลดีรึเปล่า ถ้าอยากซื้อรถจากรถเต็นท์ควรเลือกรถเต็นท์ที่ไว้ใจได้ หรือให้ผู้ที่มีความรู้เรื่องรถไปช่วยดู
2. ราคาแพงกว่าสภาพจริง
การซื้อรถจากรถเต็นท์ย่อมมีการปรับเปลี่ยนอะไหล่ ปรับปรุงสภาพให้ดูดีขึ้นจากสภาพเดิม และมีการบวกกำไรเข้าไป ทำให้ราคาที่กำหนดอาจสูงกว่าสภาพจริง หรือถ้าไปซื้อรถกับเจ้าของโดยตรงอาจได้ราคาที่ถูกกว่าซื้อรถเต็นท์
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลายคนคงเข้าใจความหมายของรถเต็นท์และรถบ้านกันแล้ว แต่ถ้าใครอยากฟังข้อมูลแบบเต็ม ๆ จากโค้ชระดับประเทศ ขอแนะนำ...
รถมือสอง รถเต็นท์ VS รถบ้าน เลือกแบบไหนดี? Krungsri The COACH Ep.44
3 เทคนิคการเลือกซื้อรถมือสองให้ได้รถคุณภาพดี
1. เลือกราคาที่สอดคล้องกับรายได้
เมื่อซื้อแล้วต้องมั่นใจว่าจะไม่เป็น
ภาระในการผ่อนชำระในอนาคต ซึ่งเทคนิคในการกำหนดภาระในการเช่าซื้อรถมือสองกับรายได้ ก็คือรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วจะต้องเหลือเก็บที่ 40% เพราะไม่ได้มีแค่ค่ารถอย่างเดียวเท่านั้น จะมีค่าบำรุงรักษา, ค่าน้ำมัน, และอื่น ๆ ที่จะตามมาอีก ดังนั้นการเหลือเก็บ 40% ก็จะทำให้ผ่อนรถได้แบบสบาย ๆ ไม่หนักจนเกินไป
2. เลือกผู้จำหน่ายรถมือสองที่น่าเชื่อถือ
หลักเกณฑ์ในการดูง่าย ๆ ก็คือ ผู้ประกอบการเต็นท์รถจะต้องมีใบประกอบกิจการขายรถมือสอง มีการจดทะเบียนในการประกอบการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หรืออาจจะหาข้อมูลได้จากแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เพราะการที่จะตัดสินใจซื้อรถคันหนึ่งที่โดนใจแล้ว จะต้องปลอดภัย ถูกกฎหมาย และผ่านการตรวจสภาพเบื้องต้นมาแล้ว
3. ตรวจสอบสภาพรถ ทั้งภายใน และภายนอก ให้มั่นใจก่อนซื้อ
โดยจะมีเทคนิคในการดูรถง่าย ๆ ดังนี้
- สภาพภายนอกต้องมีสีตัวถังที่สม่ำเสมอและไม่ผิดแปลกไป เพราะบางคันอาจจะมีการเปลี่ยนเพราะถูกชนมา เป็นต้น
- ดูอะไหล่ต่าง ๆ เช่น ไฟหน้ารถกับไฟท้ายรถอาจจะคนละสี เพราะฉะนั้นผู้ซื้อจะต้องตั้งคำถามว่า ทำไมอายุรถ 10 ปี แต่ไฟหน้ายังใหม่อยู่เลย ผู้ซื้ออาจจะต้องทดคำถามไว้ในใจเพื่อที่จะไม่ถูกหลอกเอา และรับได้ไหมกับสภาพที่จะได้รับมา
- สมรรถนะในการขับขี่ ซึ่งผู้ซื้อจะต้องทำการทดลองขับขี่ก่อนที่จะซื้อ ต้องตรวจสอบว่ารถคันนี้พร้อมที่จะใช้งานไหม พวงมาลัยเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ขัดข้องไหม มีเสียงแปลก ๆ ภายในและภายนอกรถรึเปล่าระหว่างการทดลองขับ
- ตรวจสอบปีผลิตรถคันนั้นว่าตรวจตามเลขทะเบียนหรือไม่ โดยจะสังเกตได้จากเลขโค้ดบนกระจกรถ และแท็กบนเข็มขัดนิรภัย โดยที่ทั้งสองจุดนี้จะบ่งบอกปีรถ ซึ่งผู้ซื้อจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเลขตรงตามสมุดเล่มรถที่ลงทะเบียนไว้
- สุดท้ายเลยตรวจเช็กเลขที่ขอบยางว่าพร้อมใช้งานหรือไม่ โดยที่เลขจะอยู่ตรงขอบยาง และเลขปีตรงขอบยางจะต้องใหม่กว่าปีรถเสมอ ส่วนของอายุยางในการใช้งาน เช่น ถ้าหากรถคันที่จะซื้อเปลี่ยนยางมาแล้ว ยางก่อนเปลี่ยนจะต้องมีอายุอย่างน้อย 6 เดือน ถ้ามากกว่านี้จะถือว่าเป็นยางปีเก่า
ในท้ายที่สุดนี้การเลือกซื้อรถมือสอง ไม่ว่าจะเป็นรถเต็นท์หรือรถบ้าน ก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าแบบไหนเหมาะสมกับเรา และมากไปกว่านั้นคือควรที่จะคำนึงถึงสมรรถภาพของรถ ตรวจเช็กสภาพ ความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เพราะไม่เพียงแต่จะเซฟความปลอดภัยของคุณเองแต่ยังเซฟคนอื่นบนท้องถนนอีกด้วย