ปรับพอร์ตอย่างไรในปี 2568 เมื่อสถานการณ์โลกและเศรษฐกิจผันผวนสูง

โดย สิรภัทร เกาฏีระ CFP® นักวางแผนการเงิน
13 กุมภาพันธ์ 2568
เมื่อเศรษฐกิจผันผวนควรปรับพอร์ตอย่างไร
ปี 2568 ถือเป็นปีแห่งความไม่แน่นอนในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การรวมตัวของกลุ่มประเทศที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว (BRICS) ได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ ที่ส่งสัญญาณให้ความสำคัญกับสกุลเงินดอลลาร์ อาจก่อชนวนสงครามการค้าที่รุนแรงขึ้น ซึ่งนโยบายทรัมป์ 2.0 พร้อมจะตอบโต้เช่นเดียวกัน ถือเป็นสถานการณ์ที่นักลงทุนต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุนทั่วโลก สิ่งที่สำคัญคือการปรับพอร์ตตามความผันผวนของเศรษฐกิจโลก
 

เตรียมแผนปรับพอร์ตท่ามกลางความผันผวน

ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง นักลงทุนควรทบทวนและปรับพอร์ตการลงทุนอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณา ดังนี้
  • สถานการณ์และเป้าหมายการลงทุน นักลงทุนต้องติดตามสถานการณ์ วิเคราะห์สภาวะตลาดและปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุน ทบทวนเป้าหมายการลงทุนว่ายังสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่ รวมทั้งประเมินระยะเวลาการลงทุนที่เหลือว่าต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนหรือไม่ เช่น กรณีลูกค้าลงทุนกองทุนแบบประจำ (DCA) อยู่ ควรเช็คว่า กองทุนที่ลงทุนยังพื้นฐานดี มีแนวโน้มเติบโตต่อไหม หากว่าไม่ใช่ ควรพิจารณาสับเปลี่ยนกองทุนไปกองทุนอื่นที่มีแนวโน้มที่ดีกว่า
  • เลือกจังหวะในการปรับพอร์ต นักลงทุนควรเลือกจังหวะที่เหมาะสมในการซื้อขาย เพื่อลดผลกระทบด้านต้นทุน และทยอยปรับพอร์ตแทนการปรับครั้งเดียวทั้งหมด เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาดในระยะสั้น รวมถึงคำนึงถึงสภาพคล่องของสินทรัพย์ที่จะซื้อขาย
  • ข้อควรระวังในการปรับพอร์ต สำหรับนักลงทุนที่จะพิจารณาปรับพอร์ต ควรพิจารณาถึงค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่อาจกระทบผลตอบแทน ที่สำคัญต้องไม่ปรับเปลี่ยนพอร์ตบ่อยเกินไปจนเกิดต้นทุนสูง รวมถึงต้องติดตามผลการดำเนินงานของพอร์ตใหม่อย่างใกล้ชิด และเตรียมแผนสำรองหากผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
  • กลยุทธ์กระจายความเสี่ยง การกระจายความเสี่ยงยังคงมีความจำเป็น และช่วยให้นักลงทุนไปถึงเป้าหมายอย่างปลอดภัยในระยะยาว ท่ามกลางความผันผวนที่เกิดขึ้น

 

ปรับพอร์ตลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัย เพื่อเป้าหมายระยะยาว

ในภาวะที่ตลาดผันผวน การปรับพอร์ตโดยการจัดสรรเงินลงทุนบางส่วนไปยังสินทรัพย์ปลอดภัยเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่น่าสนใจ แต่ต้องคำนึงถึงระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และเป้าหมายการลงทุนระยะยาว โดยมีสินทรัพย์ปลอดภัยที่น่าสนใจ ดังนี้
  • พันธบัตรรัฐบาล ให้ผลตอบแทนที่แน่นอนและมีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากรัฐบาลเป็นผู้ออกพันธบัตร การปรับพอร์ตมาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล จะทำให้นักลงทุนมั่นใจได้ว่าจะได้รับเงินต้นและดอกเบี้ยคืนอย่างครบถ้วน
  • กองทุนตราสารหนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนที่สม่ำเสมอและความเสี่ยงปานกลาง ซึ่งภายใต้สภาวะตลาดที่ผันผวน กองทุนตราสารหนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากมีการกระจายการลงทุนและมีความยืดหยุ่นในการบริหารพอร์ต ควรเลือกกองทุนที่มีการปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงิน
  • ทองคำ เป็นสินทรัพย์ที่มักปรับสูงตัวขึ้นในช่วงที่ตลาดผันผวนและเงินเฟ้อสูง ซึ่งในปี 2568 ยังมีปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำทั้งการรวมตัวของกลุ่ม BRICS ที่กำลังสะสมทองคำ และธนาคารกลางประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ยังเดินหน้าสะสมทองคำเมื่อมีจังหวะเหมาะสม รวมทั้งปัจจัยด้านอัตราดอกเบี้ยที่ยังไม่แน่นอน ส่งผลดีต่อตลาดทองคำ
 

กลยุทธ์การลงทุนรับทิศทางอัตราดอกเบี้ยไม่แน่นอน

ท่ามกลางความไม่ชัดเจนของทิศทางอัตราดอกเบี้ยโลก โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐฯ จากนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ แต่แนวโน้มธนาคารกลางประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลก ไม่ว่าจะจีนหรือยุโรปจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งในสภาวะที่อัตราดอกเบี้ยมีการเปลี่ยนแปลง นักลงทุนควรพิจารณาปรับกลยุทธ์การลงทุน ดังนี้
  • เมื่อดอกเบี้ยขาลง
    อาจพิจารณาเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาวเพื่อล็อกโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าและลงทุนในหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากต้นทุนทางการเงินที่ลดลง
  • เมื่อดอกเบี้ยขาขึ้น
    พิจารณาลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาและอาจเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยสูง

ทั้งนี้ ธนาคารกรุงศรีขอแนะนำกองทุนเพื่อช่วยคุณปรับพอร์ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในช่วงที่ภาวะตลาดมีความผันผวนสูง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ และปัจจัยการเมืองในต่างประเทศ ได้แก่
 
แนะนำกองทุนช่วยปรับพอร์ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
  • กรุงศรีโกลบอลแบรนด์อิควิตี้-สะสมมูลค่า (KFGBRAND-A)
    • ลงทุนในกองทุนหุ้นทั่วโลก ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่มีแบรนด์ดิ้งแข็งแกร่ง มีโอกาสเติบโตสูง เพื่อรับโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ภายใต้ความผันผวนที่เหมาะสม
    • กองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงิน และ/หรือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient Portfolio Management)
    • เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสะสมความเติบโตของผลตอบแทนไว้ในกองทุน
  • กรุงศรีแอคทีฟตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFAFIXRMF)
    • ลงทุนในตราสารหนี้ และ/หรือเงินฝาก ทั้งในและต่างประเทศที่ออกโดยภาครัฐและภาคเอกชนที่มีคุณภาพดี มีความยืดหยุ่นในการจัดสรรพอร์ตการลงทุน
    • เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ คาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงกว่ากองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น สามารถรับความผันผวนของ NAV ระยะสั้นได้ และเป็นการลงทุนที่ต้องการสิทธิประโยชน์ทางภาษี
  • กรุงศรีโกลบอลแบรนด์อิควิตี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFGBRANRMF)
    • เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทต่าง ๆ ในประเทศที่พัฒนาแล้วทั่วโลกซึ่งประสบผลสำเร็จหรือมีชื่อเสียงใน brand โดยพิจารณาจาก intangible assets เช่น การมีเครื่องหมายการค้าเป็นที่รู้จักทั่วโลก การเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์สินค้า
    • มุ่งสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาวจากการลงทุนในหุ้นคุณภาพดีที่มีความทนทานต่อภาวะตลาด (Defensive stock) เป็นหลัก
    • เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงออกจากการลงทุนในไทยไปยังต่างประเทศ และเป็นการลงทุนที่ต้องการสิทธิประโยชน์ทางภาษี

การจัดการพอร์ตที่ยืดหยุ่นและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจเป็นสิ่งจำเป็นในปี 2568 เพื่อสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและลดความเสี่ยง นักลงทุนควรพิจารณาข้อมูลและคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน อย่าง KRUNGSRI PRIME ซึ่งมีบริการที่ช่วยจัดการและวางแผนการเงินอย่างมืออาชีพ การติดตามข่าวสารและการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ จะช่วยให้นักลงทุนสามารถรับมือกับความผันผวนของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ! เพียงโทร 02-296-5959 (จันทร์ - ศุกร์ 09.00 - 17.00 น.) หรือฝากข้อมูลให้ติดต่อกลับ

ขอรับหนังสือชี้ชวน และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงและศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน
  • ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • กองทุน RMF เป็นการลงทุนเพื่อการเกษียณอายุผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน
  • KFAFIXRMF อาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Non-investment grade) หรือที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Bond) ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกตราสารซึ่งส่งผลให้ผู้ลงทุนขาดทุนจากการลงทุนบางส่วนหรือทั้งจำนวนได้และในการขายคืนหน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับเงินคืนตามที่ระบุไว้ในโครงการ
  • KFGBRAND, KFGBRANRMF ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนจึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
สนใจร่วมเป็นลูกค้า ด้วยการเลือก KRUNGSRI PRIME ต่อยอดเงินให้เติบโต​
KRUNGSRI PRIME ช่วยพาคุณไปสู่เป้าหมายทางการเงินได้เร็วขึ้น พร้อมเพิ่มความมั่งคั่งทางการเงิน และต่อยอดเงินล้านของคุณให้เติบโตสู่ล้านถัดๆไป นอกจากนี้ KRUNGSRI PRIME ยังมอบความพิเศษด้วยสิทธิ์ต่างๆทั้งด้านการเงินและไลฟ์สไตล์ที่ถูกคัดสรรมาให้แก่ลูกค้าคนพิเศษเช่นคุณ