ลงทุนอะไรดี ความเสี่ยงน้อยแต่ได้มาก

โดย สิรภัทร เกาฏีระ CFP® นักวางแผนการเงิน
23 พฤษภาคม 2565
ลงทุนอะไรดี ความเสี่ยงน้อยแต่ได้มาก
อยากลงทุนแต่กังวลเรื่องความเสี่ยง แต่ถ้าคุณไม่ลงทุนเลยอาจจะเสี่ยงมากกว่า เพราะว่าเงินเฟ้อจะทำให้มูลค่าเงินในมือของคุณลดลงในทุกๆ ปี แล้วควรลงทุนอะไรดีที่ความเสี่ยงน้อยแต่ได้มาก ลองมาหาคำตอบไปพร้อมๆ กันเลย

ลงทุนอะไรดี
ความเสี่ยงน้อยแต่ได้มาก

เมื่อพูดถึงการลงทุนหลายคนอาจนึกถึงการทำธุรกิจ เปิดพอร์ตหุ้น ไปจนถึงการซื้อสินทรัพย์เพื่อเก็งกำไร แต่เมื่อเรามีการระบุชัดถึงความเสี่ยงทิศทางของคำตอบมักเอนเอียงมาทาง “กองทุนรวม”
 
กองทุนรวมเป็นทางเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์ประเด็นนี้ได้อย่างชัดเจน เพราะนอกจากมีความเสี่ยงที่หลากหลายให้ผู้ลงทุนได้เลือกแล้วกองทุนต่างๆ ยังได้รับการดูแลจากมืออาชีพด้านการลงทุนช่วยให้คุณไม่จำเป็นต้องศึกษาในเชิงลึกเองอีกด้วย
ซึ่งประเภทของกองทุนความเสี่ยงต่ำที่น่าจับตามองนั้นมีดังนี้

1. กองทุนตราสารหนี้

กองทุนตราสารหนี้ คือ กองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้รูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตราสารหนี้ของภาครัฐหรือภาคเอกชนเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ มักมีการกำหนดดอกเบี้ยที่แน่นอน และมีผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากประจำ
 
ข้อดีอีกประการของกองทุนรวมตราสารหนี้คือมีความมั่นคง และมีการบอกระดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ของบริษัทต่างๆ ที่ทางกองทุนได้ดำเนินการลงทุนทำให้ผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบได้ง่าย เหมาะสมสำหรับมือใหม่และผู้ที่รับความเสี่ยงได้ไม่มากนัก
 
กองทุนที่น่าสนใจ KFSMART กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นที่กระจายการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและตราสารหนี้ที่ออกโดยสถาบันการเงิน/บริษัทเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ เหมาะกับผู้ที่ต้องการพักเงินระยะสั้น และคาดหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์
 
สามารถอ่านหนังสือชี้ชวนสรุปข้อมูลสำคัญได้ที่หนังสือชี้ชวนกองทุน KFSMART

2. กองทุนรวมหุ้น

กองทุนรวมหุ้น คือ กองทุนที่ลงทุนในตราสารทุน หรือหุ้นของบริษัทต่างๆ ซึ่งจะมีความเสี่ยงสูงกว่ากองทุนตราสารหนี้ แต่ก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงกว่าเช่นกัน นักลงทุนจำนวนไม่น้อยจึงนิยมลงทุนในกองทุนทั้งสองประเภทเพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทน
 
กองทุนรวมหุ้นมีข้อดีที่ความหลากหลายตามนโยบายของผู้จัดการกองทุน โดยแบ่งเป็นการลงทุนหุ้นในประเทศ การลงทุนหุ้นต่างประเทศ การลงทุนหุ้น Sector และการลงทุนหุ้นดัชนี กองทุนรวมหุ้นบางกองทุนมีการลงทุนในบริษัทระดับโลกอย่าง Google และ Amazon หากนักลงทุนคนไหนที่สนใจร่วมลงทุนกับบริษัทใหญ่ กองทุนเหล่านี้ก็นับว่าตอบโจทย์เป็นอย่างยิ่ง
 
กองทุนที่น่าสนใจ KFHAPPY กองทุนผสมที่ผสานการลงทุนทั้งจากหุ้นและตราสารหนี้เข้าด้วยกัน นอกจากนี้อาจมีการลงทุนในหน่วยลงทุนที่น่าสนใจต่างๆ เพิ่มเติม ทำให้เป็นกองทุนที่มีความโดดเด่นอย่างมากทั้งจากการกระจายความเสี่ยงและการเพิ่มผลตอบแทนที่ต้องการ
 
สามารถอ่านหนังสือชี้ชวนสรุปข้อมูลสำคัญได้ที่หนังสือชี้ชวนกองทุน KFHAPPY-A
 
กองทุนที่น่าสนใจ KFGBRAND กองทุนหุ้นซึ่งมีนโยบายการลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานแบรนด์แข็งแรงทั่วโลกผ่านกองทุนรวมต่างประเทศ Morgan Stanley Investment Fund มีทั้งแบบสะสมมูลค่าและแบบจ่ายเงินปันผล
 
สามารถอ่านหนังสือชี้ชวนสรุปข้อมูลสำคัญได้ที่หนังสือชี้ชวนกองทุน KFGBRAND-A
 
กองทุนที่น่าสนใจ PRINCIPAL iPROPEN-A กองทุนรวมหน่วยลงทุนที่มีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนอสังหาริมทรัพย์หรือทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) และกองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งในและต่างประเทศ
สามารถอ่านหนังสือชี้ชวนสรุปข้อมูลสำคัญได้ที่หนังสือชี้ชวนกองทุน PRINCIPAL iPROPEN-A
 

3. กองทุนรวมที่มีการลดหย่อนภาษี

หากพูดถึงการลงทุนที่ “เสี่ยงน้อยแต่ได้มาก” กองทุนประเภทสุดท้ายเห็นจะไม่พ้นกองทุนที่มีการลดหย่อนภาษี อย่าง SSF และ RMF ที่นอกจากจะให้ผลตอบแทนคุ้มค่าแล้ว ยังสามารถใช้สิทธิเพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้อีกด้วย
 
กองทุนที่น่าสนใจ KFGBRANSSF กองทุนที่เน้นการลงทุนในหุ้นพื้นฐานแข็งแรงทั่วโลก ผ่านกองทุนรวมต่างประเทศ Morgan Stanley Investment Fund ทำให้ KFGBRANSSF เป็นอีกหนึ่งกองทุนมาแรงที่มีคุณสมบัติทั้งการเติบโตอย่างมีคุณภาพและการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี จึงเหมาะสำหรับการลงทุนน้อยแต่ได้มากจริงๆ
 

ข้อควรรู้ก่อนการลงทุน

สำหรับผู้ที่ไม่เคยลงทุนมาก่อน หรือเพิ่งจะลงทุนไปได้ไม่นาน เราขอแนะนำข้อควรรู้ก่อนที่จะเริ่มลงทุนเพื่อให้การลงทุนของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงในการขาดทุน โดยมีหลัก 3 ประการดังนี้
 
  1. ประเมินความเสี่ยงตัวคุณเอง โดยคุณสามารถประเมินความเสี่ยงด้านการลงทุนสำหรับตัวเองได้ง่ายๆ ที่แบบประเมินความเสี่ยงจากธนาคารกรุงศรีเพื่อค้นหาสไตล์การลงทุนที่เหมาะกับตัวคุณเองมากที่สุด
  2. สำรวจนโยบายการลงทุน ตรวจสอบนโยบายการลงทุนของแต่ละกองทุนอย่างถี่ถ้วนผ่านการอ่านหนังสือชี้ชวน และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมของกองทุนนั้นๆ ด้วยช่องทางต่างๆ เช่น อินเทอร์เน็ต เพื่อทำให้คุณมั่นใจยิ่งขึ้นก่อน ตัดสินใจเลือกซื้อกองทุน
  3. ศึกษาเงื่อนไขการซื้อขาย นอกจากนโยบายการลงทุนแล้ว อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการศึกษาเงื่อนไขการซื้อขาย เพราะแต่ละกองทุนมักมีเงื่อนไขในการซื้อขายแตกต่างกันออกไป เช่น เงินลงทุนเริ่มต้น เงินที่จะได้หลังจากการขายกองทุนจะเข้ามาภายในกี่วัน ถ้าหากคุณศึกษาไม่ถี่ถ้วนก็อาจส่งผลกระทบต่อการใช้เงินในชีวิตประจำวันของคุณได้อีกด้วย
 
 

ปรับพอร์ตสม่ำเสมอ เทคนิคสำคัญในการลงทุนน้อยแต่ได้มากขึ้น

เทคนิคสำคัญสำหรับการลงทุนน้อยแต่ได้มากคือการปรับพอร์ตอย่างเหมาะสม แม้ว่าจะเป็นการลงทุนระยะยาวนักลงทุนก็ควรปรับพอร์ตทุกๆ 6 เดือน เพื่อตรวจสอบมูลค่า ประสิทธิภาพในการทำกำไร และปรับเปลี่ยนการซื้อขายต่างๆ ให้เหมาะสมกับช่วงเวลานั้นๆ มากที่สุด
 

สรุป

แม้การลงทุนในกองทุนข้างต้นอาจมีความเสี่ยงน้อย แต่ผู้ลงทุนทุกคนควรคำนึงอยู่เสมอว่า “ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง” แม้จะเป็นการลงทุนที่มั่นคงก็อาจมีเหตุให้ขาดทุนได้อยู่ดี ดังนั้นควรมีการวางแผนและพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์
 
และในบางครั้งผลตอบแทนอาจไม่ได้มาในรูปแบบเม็ดเงินแต่มาในรูปแบบของสิทธิพิเศษต่างๆ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในหลากหลายด้าน และบริการต่างๆ ที่พร้อมจะช่วยทำให้คุณใช้ชีวิตสบายขึ้นจาก
 
หากคุณต้องการปรึกษาเกี่ยวกับการวางแผนการเงินหรือมีคำถามเกี่ยวกับการเงินและกองทุนทั้งหลาย สามารถปรึกษาได้ที่ 02-296-5959 จันทร์ - ศุกร์ เวลา 9.00 น. - 17.00 น. หรือ ฝากข้อมูลเพื่อให้ที่ปรึกษาทางการเงิน จาก ติดต่อกลับ
สนใจร่วมเป็นลูกค้า ด้วยการเลือก KRUNGSRI PRIME ต่อยอดเงินให้เติบโต​
KRUNGSRI PRIME ช่วยพาคุณไปสู่เป้าหมายทางการเงินได้เร็วขึ้น พร้อมเพิ่มความมั่งคั่งทางการเงิน และต่อยอดเงินล้านของคุณให้เติบโตสู่ล้านถัดๆไป นอกจากนี้ KRUNGSRI PRIME ยังมอบความพิเศษด้วยสิทธิ์ต่างๆทั้งด้านการเงินและไลฟ์สไตล์ที่ถูกคัดสรรมาให้แก่ลูกค้าคนพิเศษเช่นคุณ