ความท้าทายการลงทุนท่ามกลางความผันผวนที่มาพร้อมโอกาสลงทุนในตราสารหนี้

โดย สิรภัทร เกาฏีระ CFP® นักวางแผนการเงิน
25 กันยายน 2567
โอกาสลงทุนในตราสารหนี้ท่ามกลางความผันผวน

ตราสารหนี้ ทำไมนักลงทุนถึงให้ความสนใจนัก?

เมื่อเศรษฐกิจยังมีความผันผวนอย่างต่อเนื่องส่งผลให้นักลงทุนทั่วโลกมีพฤติกรรมการลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไป บ้างก็หันไปลงทุนกับสินทรัพย์ทางเลือกที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนสูง ๆ บ้างก็ต้องการลดความเสี่ยงจากการติดดอย ด้วยการลงทุนสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงไม่สูง อย่างการลงทุนในตราสารหนี้ ตราสารหนี้ (Bond) มีหลายรูปแบบ ทั้งตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล และหุ้นกู้เอกชน ตราสารหนี้ คือตราสารทางการเงินที่ผู้ถือ (นักลงทุน) มีสถานะเป็นเจ้าหนี้ และผู้ออกมีสถานะเป็นลูกหนี้ โดยเจ้าหนี้จะได้รับผลตอบแทนในรูปของ “ดอกเบี้ย” อย่างสม่ำเสมอตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ และจะได้รับ “เงินต้น” คืนเมื่อครบกำหนดอายุ

ตราสารหนี้มีจุดเด่นตรงที่เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อย แต่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ เฉลี่ยที่ 2 - 5% สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไปที่ให้ดอกเบี้ยประมาณ 0.3 - 0.5% ที่สำคัญหากผู้ออกตราสารไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้และอยู่ในสภาพล้มละลาย ผู้ถือตราสารหนี้จะมีสิทธิเรียกร้องความเสียหาย ทำให้ตราสารหนี้เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ และช่วยกระจายความเสี่ยงการลงทุนได้ท่ามกลางสภาวะตลาดการเงินที่ผันผวน

 

จับตาปัจจัยที่ทำให้การลงทุนตราสารหนี้มีความเสี่ยง

สำหรับการลงทุนทุกประเภทย่อมมีความเสี่ยง ตราสารหนี้ก็เช่นเดียวกัน ความเสี่ยงหลักที่ต้องระมัดระวัง คือ การผิดนัดชำระหนี้ (Default Risk) ซึ่งเราสามารถดูความเสี่ยงนี้ได้ตั้งแต่ก่อนเริ่มลงทุน โดยดูจากการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ โดยทั่วไปจะแบ่งเกรดตราสารหนี้ออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่
  1. กลุ่มน่าลงทุน หรือ Investment Grade จะได้รับ Credit Rating ตั้งแต่ AAA ไปจนถึง BBB- ถือว่าเป็นตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ต่ำ มั่นคง และมีความน่าเชื่อถือสูง
  2. กลุ่มเก็งกำไร หรือ Speculative Grade จะได้รับ Credit Rating ตั้งแต่ BB+ ไปจนถึง D หรือเรียกกลุ่มนี้ว่า High Yield Bond เป็นตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูง แต่ก็มีโอกาสที่จะผิดนัดชำระหนี้ได้มากกว่า
 

ข้อควรรู้ในการลงทุนตราสารหนี้

คุณรู้หรือไม่ว่าราคาของตราสารหนี้จะขึ้นลงสลับกันอัตราดอกเบี้ย ถ้าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยสูง ราคาตราสารหนี้ในตลาดจะลดลง เพราะนักลงทุนจะให้ความสนใจกับตราสารหนี้ที่กำลังจะออกใหม่จากอัตราดอกเบี้ยที่น่าสนใจกว่า ทำให้ตราสารหนี้ระยะยาวจะมีความผันผวนของราคามากกว่าตราสารหนี้ระยะสั้น หากแนวโน้มดอกเบี้ยปรับตัวสู่ขาลง จะทำให้นักลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า

แนวโน้มการลงทุนตราสารหนี้ขณะนี้ ควรเน้นการลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว นอกจากจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าแล้ว ยังเอื้อประโยชน์จากการที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอีกด้วย
 

เพิ่มโอกาสการลงทุน กับกองทุนตราสารหนี้ที่น่าสนใจ

 
กองทุนตราสารหนี้น่าสนใจ

สำหรับนักลงทุนรายย่อย การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดี ที่นักลงทุนใช้เงินลงทุนน้อยกว่าและกระจายความเสี่ยงได้ดีกว่าแถมยังมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล หากนักลงทุนสนใจเลือกลงทุนในตราสารหนี้ ขอแนะนำ 2 กองทุนที่น่าสนใจ ดังนี้

กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลคอลเล็คทีฟสมาร์ทอินคัม (KF-CSINCOM)
  • เน้นลงทุนในตราสารหนี้หลากหลายประเภททั่วโลกผ่านกองทุนรวมต่างประเทศ PIMCO GIS Income Fund (Class I-Acc)
  • มีแนวทางบริหารการลงทุนเชิงรุก และมีการปรับสัดส่วนการลงทุนตราสารหนี้แต่ละประเภท และอายุของตราสารที่ลงทุน (Duration) ให้เหมาะกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว

กองทุนเปิดกรุงศรีแอคทีฟตราสารหนี้ ชนิดสะสมมูลค่า (KFAFIX-A)
  • เน้นลงทุนในประเทศและ/หรือต่างประเทศ ในตราสารหนี้ และ/หรือเงินฝาก หรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก ที่ออกรับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกันการจ่ายเงิน โดยภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน และ/หรือภาคเอกชน

แม้การลงทุนในตราสารหนี้อาจจะดูไม่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนสายซิ่ง เพราะผลตอบแทนอาจจะไม่หวือหวาเมื่อเทียบเท่ากับกองทุนอื่น แต่การมีกองทุนตราสารหนี้ติดพอร์ตไว้จะช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด และเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนให้กับคุณ

ปัจจุบันทางเลือกในการลงทุนตราสารหนี้มีมากมายหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้คุณสามารถเลือกลงทุนให้เหมาะกับสไตล์การลงทุนของคุณให้มากที่สุด สามารถสอบถามผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน โทร 02-296-5959 วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 0.00 – 17.00 น. หรือ ฝากข้อมูลเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจาก KRUNGSRI PRIME ติดต่อกลับได้เช่นกัน

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
  • ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • KF-CSINCOM อาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Non-investment grade) หรือที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Bond) ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร ซึ่งส่งผลให้ผู้ลงทุนขาดทุนจากการลงทุนบางส่วน หรือทั้งจำนวนได้ และในการขายคืนหน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับเงินคืนตามที่ระบุไว้ในโครงการ
สนใจร่วมเป็นลูกค้า ด้วยการเลือก KRUNGSRI PRIME ต่อยอดเงินให้เติบโต​
KRUNGSRI PRIME ช่วยพาคุณไปสู่เป้าหมายทางการเงินได้เร็วขึ้น พร้อมเพิ่มความมั่งคั่งทางการเงิน และต่อยอดเงินล้านของคุณให้เติบโตสู่ล้านถัดๆไป นอกจากนี้ KRUNGSRI PRIME ยังมอบความพิเศษด้วยสิทธิ์ต่างๆทั้งด้านการเงินและไลฟ์สไตล์ที่ถูกคัดสรรมาให้แก่ลูกค้าคนพิเศษเช่นคุณ