ความผันผวนรุนแรงของตลาดหุ้นเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย และมักจะส่งผลกระทบต่อ
พอร์ตการลงทุนทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ ซึ่งมีนักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่มีความกังวลต่อความผันผวนที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในภาวะที่ความผันผวนนั้นมีความรุนแรง การสร้างจุดพักเงิน หรือหลุมหลบภัย จึงเป็นสิ่งสำคัญที่นักลงทุนควรมีอยู่ในแผนการลงทุน เพื่อป้องกันความเสียหายรุนแรงต่อพอร์ต แล้วอะไรคือหลุมหลบภัยที่ดี และมีประสิทธิภาพมากพอจะลดความเสี่ยงจากความผันผวนได้ หนึ่งในนั้นก็คือเงินฝากดอกเบี้ยสูง รวมถึงกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้นด้วยนั่นเอง
สู้ต่อหรือถอยก่อน เมื่อตลาดหุ้นผันผวนรุนแรง
ในยามที่ตลาดหุ้นผันผวนรุนแรง กลยุทธ์ที่จะช่วยลดผลกระทบได้ ไม่ได้อยู่ที่การจับจังหวะตลาด เพราะในสถานการณ์เช่นนี้เราจะไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่า ตลาดหุ้นจะดิ่งลงไปขนาดไหน และเมื่อไหร่จะปรับตัวขึ้นมา ดังนั้นวิธีที่จะช่วยให้ตัดสินใจได้ว่า ควรจะสู้ต่อ หรือถอยมาตั้งหลักก่อน คือการเลือกพิจารณาจากสิ่งที่สามารถคาดการณ์ได้ นั่นหมายถึงหุ้นที่ถืออยู่ ซึ่งเรื่องที่ต้องพิจารณาอันดับแรกคือ ได้คัดเลือกหุ้นจากบริษัทที่มีพื้นฐานดีมาแล้ว แม้จะผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายครั้ง แต่ผลประกอบการก็ยังอยู่ในจุดที่น่าพึงพอใจ เมื่อมั่นใจหุ้นที่เลือก ก็สามารถวางใจได้ระดับหนึ่งว่า เมื่อตลาดลดความผันผวนลง หุ้นจะกลับมามีสภาพคล่องดังเดิม และค่อย ๆ เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ได้
สิ่งสำคัญคือ นักลงทุนต้องเข้าใจวัฏจักรของตลาดว่ามีการปรับตัวขึ้น และลดลงอยู่ตลอดเวลา ไม่มีใครที่สามารถคาดการณ์ได้ 100% ว่าตลาดจะร่วงลงไปขนาดไหน หรือจะพุ่งขึ้นมากเพียงใด มีเพียงหุ้นที่เลือกเท่านั้นที่จะทำให้มั่นใจได้ โดยเฉพาะหุ้นที่มีพื้นฐานดี ในระยะยาวมักจะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าหุ้นทั่วไป
และอีกหนึ่งกลยุทธ์ คือ เมื่อเกิดความผันผวนรุนแรงในตลาด การยอมถอยออกมาเพื่อมองหาแหล่งพักเงินก็เป็นเรื่องที่ควรทำมากกว่าการเฝ้ามองราคาหุ้นที่ขึ้นและลงแบบรายวัน โดยที่ไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี ซึ่งแหล่งพักเงินและพักใจ ก็มีอยู่หลายช่องทางที่น่าสนใจ อย่างเงินฝากดอกเบี้ยสูงหรือกองทุนตราสารหนี้ ก็ถือว่าเป็น Safe Zone ที่คุ้มค่าต่อการลงทุน
การลดความเสี่ยง และพักเงินลงทุน ด้วยการฝากเงินเพื่อรับดอกเบี้ยคงที่ในอัตราสูง
การเปลี่ยนรูปแบบการลงทุน จากการลงทุนในตลาดหุ้นเพียงอย่างเดียว มาเพิ่มเป็นการลงทุนประเภทอื่น ๆ ที่มีการจ่ายดอกเบี้ยสูง และมีความเสี่ยงต่ำกว่าในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนรุนแรง แนวคิดนี้ถือว่าเป็นการสร้างแหล่งพักเงินที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่แหล่งพักเงินที่มีประสิทธิภาพ ไม่ควรสร้างความเสียหายให้แก่เงินลงทุน และควรมีผลตอบแทนที่เหมาะสม สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้รวดเร็ว ซึ่งมีอยู่ 2 ช่องทาง
การลงทุนที่น่าสนใจ คือ
- ฝากเงินผ่านบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง หรือเลือกฝากเงินผ่านบัญชีเงินฝากประจำ
- ลงทุนกับตราสารหนี้ระยะสั้น ผ่านกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น หรือเลือกลงทุนผ่านตราสารหนี้ที่มีอายุไม่เกิน 1 ปี เพื่อรับผลตอบแทนที่มากขึ้น
และถึงแม้ว่าช่องทางลงทุนทั้ง 2 ประเภทนี้จะขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งพักเงินยอดนิยม แต่ก็มีเรื่องที่นักลงทุนควรศึกษาให้เกิดความเข้าใจด้วยเช่นกัน
3 เรื่องสำคัญต้องพิจารณาก่อนเลือกการลงทุนเพื่อพักเงิน
1. มีโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยเกิดการเปลี่ยนแปลง
สำหรับบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง หากมีประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากธนาคาร ก็มีโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยของบัญชีออมทรัพย์จะปรับลดลงตามไปด้วย และในทางตรงกันข้ามหากมีการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก็มีโอกาสที่จะได้รับดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ส่วนบัญชีเงินฝากประจำ หากธนาคารประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก็อาจจะเสียโอกาสที่จะได้รับดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น
2. กองทุนรวมตราสารหนี้ อาจเปลี่ยนเป็นเงินสดไม่รวดเร็วทันใจ
สำหรับกองทุนรวมตราสารหนี้เมื่อทำการขายหน่วยลงทุนไปแล้ว การได้รับเงินสดอาจจะต้องรอ 1-2 วันทำการ หรือตามกำหนดของนโยบายกองทุนที่ได้ระบุไว้
3. มูลค่าทรัพย์สินสุทธิอาจมีความผันผวนได้
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ของกองทุนรวมตราสารหนี้อาจมีความผันผวนได้ หากเกิดกรณีผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร จนทำให้อันดับความเชื่อถือของผู้ออกตราสารลดลง หรือในกรณีที่มีตราสารหนี้ใหม่ ๆ ออกมาพร้อมกับอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น จนทำให้ตราสารหนี้เดิมต้องลดราคาลง เพื่อให้สามารถจ่ายผลตอบแทนได้ใกล้เคียงกับตราสารหนี้ที่ออกมาใหม่ หรือในกรณีสุดท้าย หากกองทุนได้ลงทุนกับตราสารหนี้ในต่างประเทศ แล้วอัตราแลกเปลี่ยนมีการเปลี่ยนแปลง ปัจจัยเหล่านี้จะทำให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิมีโอกาสลดลงได้
แนะนำ 2 ผลิตภัณฑ์น่าสนใจ บัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูง และกองทุนรวมตราสารหนี้
ธนาคารกรุงศรีอยุธยามีผลิตภัณฑ์เงินฝากดอกเบี้ยสูงและกองทุนรวมตราสารหนี้ ที่เหมาะสำหรับใช้เป็นแหล่งพักเงิน หรือจะเลือกเป็นแหล่งออมเงินเพื่อความมั่นคงก็ได้ ซึ่งมีความผันผวนต่ำและมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้นได้
บัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไปของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ให้คุณรับดอกเบี้ยเป็นรายเดือน สูงสุด 1.1% ต่อปี (ยอดเงินฝากสูงสุดไม่เกิน 1 แสนบาท) สำหรับการเปิดบัญชีออมทรัพย์แบบมีสมุดคู่ฝาก ณ สาขาของธนาคาร หรือเลือกเปิดบัญชีผ่าน KMA krungsri app แบบไม่มีสมุดคู่ฝาก รับดอกเบี้ยรายเดือนสูงสุด 1.50% ต่อปี (ยอดเงินฝากสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท)
2. กองทุนรวมตราสารหนี้ KFSMART
กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา ความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำระดับ 4 ซึ่งเน้นการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ และตราสารหนี้ที่ออกโดยสถาบันการเงินหรือบริษัทเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝาก รวมถึงมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 90% ของสัดส่วนเงินลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งแยกออกเป็นอีก 2 ชนิดกองทุนคือ
กองทุนเปิดกรุงศรีสมาร์ทตราสารหนี้-สะสมมูลค่า (KFSMART-A) และ
กองทุนเปิดกรุงศรีสมาร์ทตราสารหนี้-ผู้ลงทุนสถาบัน (KFSMART-I)
จะเห็นได้ว่า การพักเงินระหว่างที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนรุนแรงมีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ซึ่งการฝากเงินที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูง และกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น ก็เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม แต่ไม่ว่าแหล่งพักเงินจะเป็นช่องทางใด ก็ไม่มีคำตอบที่ฟันธงได้ว่าจะมีความปลอดภัย 100% ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์และช่วงเวลา เพราะในบางครั้งความผันผวนที่เกิดขึ้นก็ส่งผลกระทบต่อแหล่งพักเงินโดยตรงได้เหมือนกัน
ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการเลือกแหล่งพักเงินเพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนของตลาดหุ้น คือ นักลงทุนควรสร้างความได้เปรียบด้วยการใช้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ๆ มาเปรียบเทียบเพื่อหาแหล่งพักเงินที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา และสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาเรื่องการลงทุนประเภทต่าง ๆ เพิ่มเติม เพื่อเป็นความรู้ก่อนการลงทุน สามารถติดต่อมาพูดคุยและขอรับคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ผู้มีความเชี่ยวชาญพิเศษด้านการเงินและการลงทุนจาก KRUNGSRI PRIME ได้ที่ช่องทางฮอตไลน์ 02-296-5959 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00 น.-17.00 น. หรือ
ฝากข้อมูล เพื่อให้ทีมผู้เชี่ยวชาญจาก KRUNGSRI PRIME ติดต่อกลับก็ได้เช่นกัน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
- ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- กองทุน KFSMART อาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Non-investment grade) หรือที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Bond) ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกตราสารซึ่งส่งผลให้ผู้ลงทุนขาดทุนจากการลงทุนบางส่วนหรือทั้งจำนวนได้ และในการขายคืนหน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับเงินคืนตามที่ระบุไว้ในโครงการ