ตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป บริษัทข้ามชาติที่มีรายได้ไม่น้อยกว่า 750 ล้านยูโร จะต้องจ่ายภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลก
(Global Minimum Tax) ในอัตรา 15% รวมถึงบริษัทขนาดใหญ่ของไทยที่ดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ ต้องใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน การปรับโครงสร้างภาษีระดับโลกครั้งนี้จะส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจในแต่ละประเทศอย่างไร ธุรกิจไทยพร้อมหรือยังที่จะรับมือกับภาษีส่วนเพิ่มที่จะเกิดขึ้น แล้วเราควรรู้อะไรบ้าง ติดตามได้ในบทความนี้เลย
Global Minimum Tax คืออะไร ทำไมต้องบังคับจ่ายภาษีส่วนเพิ่ม
Global Minimum Tax หรือ ภาษีเงินได้นิติบุคคลขั้นต่ำของโลก ในอัตรา 15% เป็นข้อตกลงที่เสนอโดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เพื่อหยุดการแข่งขันทางด้านภาษีเพื่อดึงดูดการลงทุน และลดปัญหาการหลีกเลี่ยงภาษีของบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ ซึ่งกว่า 140 ประเทศ รวมทั้งไทยได้มีข้อตกลงร่วมกัน และหลายประเทศได้เริ่มมาตรการจัดเก็บภาษีดังกล่าวแล้วตั้งแต่ปี 2567 ที่ผ่านมา เช่น เกาหลีใต้ แคนาดา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เยอรมนี สหราชอาณาจักร อิตาลี เวียดนาม เป็นต้น
สำหรับประเทศไทย มีการจัดเก็บอัตราภาษีนิติบุคคลในอัตรา 20% แต่มีบริษัทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ จะได้รับการยกเว้นหรือลดหย่อนภาษี ทำให้อัตราภาษีที่แท้จริงที่ต้องจ่ายอยู่ที่ต่ำกว่า 15% ดังนั้นหากไทยยังไม่มีกฎหมายจัดเก็บภาษีส่วนเพิ่ม จะทำให้สูญเสียรายได้ภาษีส่วนเพิ่มที่ควรจัดเก็บได้ให้แก่ประเทศอื่นที่มีกฎหมาย กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพากร จึงได้ประกาศใช้พระราชกำหนดภาษีส่วนเพิ่ม พ.ศ. 2567 เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2567 โดยจะมีผลบังคับใช้แก่นิติบุคคลข้ามชาติ
(Multinational Enterprises: MNEs) ขนาดใหญ่ที่มีรายได้ไม่น้อยกว่า 750 ล้านยูโร สำหรับรอบบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป
ใครบ้างจะต้องจ่ายภาษีส่วนเพิ่ม
Global Minimum Tax หรือ GMT มีผลบังคับใช้กับบริษัทขนาดใหญ่ ภายใต้เงื่อนไข ดังนี้
- ข้อตกลง GMT บังคับใช้เฉพาะบริษัทข้ามชาติที่มีรายได้ทั่วโลกสูงกว่า 750 ล้านยูโรต่อปี (ราว 870 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี)
- ประเทศที่เข้าร่วมข้อตกลงสามารถเรียกเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลจากบริษัทข้ามชาติที่มีรายได้ตามเกณฑ์ดังกล่าวที่ตั้งในประเทศในอัตราขั้นต่ำ 15% โดยหากบริษัทลูกของบริษัทข้ามชาติดังกล่าวตั้งอยู่ในประเทศที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลต่ำกว่า 15% ประเทศที่ตั้งของบริษัทแม่สามารถเรียกเก็บส่วนต่างของภาษีที่ต่ำกว่า 15% กับบริษัทดังกล่าวได้
- ข้อตกลง GMT ไม่ยอมรับการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลในกรณีพิเศษที่เป็นมาตรการจูงใจทางภาษี อาทิ การหักค่าใช้จ่ายบางรายการได้ 2 เท่าของค่าใช้จ่ายจริง เป็นต้น เพื่อป้องกันการใช้มาตรการดังกล่าวในการทำให้อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลที่แท้จริง (Effective Corporate Tax Rate) ต่ำกว่า 15%
สำหรับพระราชกำหนดภาษีส่วนเพิ่ม พ.ศ. 2567 บังคับใช้เฉพาะกลุ่ม
MNEs ขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทย ทั้งกลุ่ม
MNEs ของไทยที่ลงทุนในต่างประเทศ หรือกลุ่ม
MNEs ของต่างประเทศที่ลงทุนในไทย มีรายได้ตามงบการเงินรวม
(Consolidated Financial Statement) ของบริษัทแม่ไม่น้อยกว่า 750 ล้านยูโร โดยมีบริษัทที่เข้าข่ายต้องถูกจัดเก็บภาษีส่วนเพิ่มประมาณ 1,000 บริษัท โดยกรมสรรพากรจะเสนอกฎหมายกำหนดรายละเอียดแนวทางปฏิบัติต่าง ๆ ตามแนวทางที่ OECD กำหนด ทั้งวิธีการยื่นแบบแสดงรายการภาษี การชำระภาษี การยื่นแบบรายงานข้อมูลตามมาตรการป้องกันการกัดกร่อนฐานภาษีระหว่างประเทศ
(GloBE Information Return) โดยจะอำนวยความสะดวกให้ดำเนินการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารจากเว็บไซต์ของกรมสรรพากรต่อไป
โอกาสและผลกระทบของ Global Minimum Tax ต่อเศรษฐกิจไทย
กฎเกณฑ์ด้านภาษีใหม่อย่าง Global Minimum Tax เป็นทั้งโอกาสและ
ความท้าทายของประเทศไทย โดยเฉพาะท่ามกลางการเคลื่อนย้ายฐานผลิตของโลกจากสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ตัวอย่างผลกระทบ เช่น คือ
- เกิดความยุติธรรมในระบบภาษี ไม่ว่าจะดำเนินงานในประเทศไหน ก็ต้องเสียภาษีในอัตราที่เท่ากัน
- บริษัทจะลดการโยกย้ายกำไรของบริษัทข้ามชาติไปยังประเทศที่มีอัตราภาษีต่ำ (Tax Havens) และบริษัทข้ามชาติที่มีรายได้เกิน 750 ล้านยูโรต่อปี จะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทเหล่านั้นมีต้นทุนธุรกิจที่เพิ่มขึ้น
- ประเทศไทยใช้อัตราภาษีต่ำเพื่อดึงดูดการลงทุน จะสูญเสียความได้เปรียบทางการแข่งขันที่จะดึงดูดบริษัทข้ามชาติมาลงทุนในประเทศด้วยนโยบายทางด้านภาษี
- เพิ่มรายได้ให้กับรัฐบาลทั่วโลก จากโครงสร้างการจัดเก็บภาษีที่มีมาตรฐาน (Standardized Tax Regulations) และจากการจัดเก็บภาษีบริษัทข้ามชาติที่สูงขึ้น
- ผลักดันให้ประเทศต่าง ๆ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สร้างแรงงานคุณภาพ และเพิ่มประสิทธิภาพทรัพยากร เพื่อเพิ่มความได้เปรียบทางการแข่งขันนอกเหนือจากสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี
ภาพรวมก็คือ กฎเกณฑ์ด้านภาษีใหม่อย่าง Global Minimum Tax อาจทำให้ไทยสามารถแข่งขันดึงดูดการลงทุนกับประเทศที่ใช้นโยบายอัตราเงินได้นิติบุคคลในระดับต่ำได้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ภายใต้โลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก กลไกการจัดเก็บภาษีอาจไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ทางธุรกิจปัจจุบันที่มีความซับซ้อน รวมถึงการเติบโตของธุรกิจดิจิทัล ยิ่งทำให้การบริหารจัดการด้านภาษียากยิ่งขึ้น โครงสร้างของตัวองค์กร การรายงานข้อมูล และการตรวจสอบต่าง ๆ ก็มีความจำเป็นต้องโปร่งใสและชัดเจนขึ้นอีกด้วย
โดยผู้ประกอบการ และนักลงทุนอาจต้องเร่งปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป สำหรับนักลงทุนที่ต้องการปรึกษา การลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ ที่ KRUNGSRI PRIME มีบริการที่ปรึกษาการลงทุน ที่ตอบโจทย์ทุกสภาวะตลาดการลงทุน ช่วยคุณตัดสินใจ ทั้งจังหวะการเข้าซื้อ - ขายกองทุนรวม รวมทั้งทำหน้าที่อัปเดตทุกความเคลื่อนไหวเศรษฐกิจของตลาดกองทุนรวม ที่มาพร้อมรายละเอียด และข้อมูลสรุปเข้าใจง่าย สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญการลงทุนจาก KRUNGSRI PRIME ได้เพียงโทร. 02-296-5959 (จันทร์ - ศุกร์ 09.00 - 17.00 น.) หรือ
ฝากข้อมูลให้ติดต่อกลับ