ใกล้สิ้นปี 2567 แล้ว เตรียมวางแผนลดหย่อนภาษีกันหรือยัง? หนึ่งในวิธีลดหย่อนภาษีที่นิยมมาก คือ การซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี เพราะสามารถได้ประโยชน์ 2 ต่อ ทั้งการลดหย่อนภาษี แถมเพิ่มโอกาสสร้างกำไรให้เงินงอกเงย วันนี้เรามัดรวม 3 ตัวเลือก น่าสนใจ ได้แก่ กองทุน SSF, RMF และ Thai ESG มาให้เลือกสรรตามความเหมาะสมของแต่ละคน
กองทุน Thai ESG คืออะไร?
กองทุน Thai ESG คือ กองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน หรือ Thailand ESG Fund เป็นกองทุนรวมที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี เพิ่มเติมจากกองทุน SSF และ RMF
โดยกองทุนจะเปิดขายครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2566 ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของมาตรการภาษีใหม่นี้เพื่อช่วยให้การลงทุนระยะยาวในตลาดทุนไทยเพิ่มขึ้น และทำให้ผู้มีเงินออมมีทางเลือกในการออมและการลงทุนระยะยาว อีกทั้งยังช่วยให้กิจการของไทยให้ความสำคัญต่อเรื่องการเติบโตอย่างยั่งยืนอีกด้วย
กองทุนลดหย่อนภาษี Thai ESG นำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์อะไรได้บ้าง?
1. หุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai)
ได้รับการคัดเลือกจาก SET ว่ามีความโดดเด่นด้านความยั่งยืน ตามหลัก ESG การลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้นอกจากจะส่งเสริมความยั่งยืนแล้วยังมีสิทธิประโยชน์จากการลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีผ่านการลงทุนในกองทุน ESG อีกด้วย
2. หุ้นที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนใน SET และ mai
การลงทุนในหุ้นที่สนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถือเป็นการส่งเสริมการลดโลกร้อน และในขณะเดียวกันก็สามารถนำไปใช้ในการลดหย่อนภาษีเพื่อประโยชน์ทางภาษีของผู้ลงทุนได้
3. ตราสารหนี้ที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การเสนอขายตราสารหนี้ที่เกี่ยวข้องด้านความยั่งยืน
การตราสารหนี้เหล่านี้มุ่งเน้นไปที่โครงการหรือองค์กรที่มีจัดการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมความยั่งยืนของธุรกิจ
4. โทเคนดิจิทัลเพื่อการระดมทุนที่เกี่ยวข้องด้านความยั่งยืน
ผู้ลงทุนสามารถได้รับประโยชน์ทั้งจากการเติบโตของการลงทุนและสิทธิประโยชน์ทางภาษี
เปรียบเทียบความแตกต่าง กองทุน SSF vs RMF vs Thai ESG
การเลือกลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีเป็นทางเลือกที่ดีในการจัดการรายได้และช่วยลดภาระภาษี แต่ละกองทุนมีเงื่อนไขการลดหย่อนภาษีและระยะเวลาการลงทุนที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. สัดส่วนเงินลงทุนซื้อ และจำนวนสูงสุดเพื่อลดหย่อนภาษี 2567
- Thai ESG : ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 300,000 บาท
- SSF : ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี และไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ และต้องไม่เกิน 500,000 บาท
- RMF : ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี และไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ
2. ระยะเวลาการลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษี 2567
- Thai ESG : ต้องถือหน่วยลงทุนอย่างน้อย 5 ปี นับจากวันที่ซื้อ ไม่บังคับซื้อทุกปี
- SSF : ต้องถือหน่วยลงทุนอย่างน้อย 10 ปี นับจากวันที่ซื้อ ไม่บังคับซื้อทุกปี
- RMF : ต้องถือครองจนถึงอายุ 55 ปี และลงทุนอย่างน้อย 5 ปี นับจากวันที่ซื้อ และต้องซื้อต่อเนื่องทุกปีหรือปีเว้นปี
3. เงื่อนไขการซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี 2567
- Thai ESG : ไม่กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำ และไม่จำเป็นต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี
- SSF : ไม่กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำ และไม่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี
- RMF : ไม่กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำ แต่เมื่อซื้อแล้วต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี หรือปีเว้นปี
4. สินทรัพย์ที่สามารถลงทุนได้
- Thai ESG : หุ้นไทยและตราสารหนี้ไทยที่เข้าหลักเกณฑ์ ESG
- SSF และ RMF : ลงทุนได้หลากหลายสินทรัพย์ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
5. ปีที่ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี
- Thai ESG : ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ตั้งแต่ปี 2566 ถึงปี 2575
- SSF : ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ตั้งแต่ปี 2563 ถึงปี 2567
อัปเดตรายชื่อกองทุนลดหย่อนภาษี SSF, RMF และ Thai ESG ที่น่าซื้อ
1. KFAFIXSSF กองทุนกรุงศรีแอคทีฟตราสารหนี้-เพื่อการออม
- นโยบายการลงทุน : กองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลางที่มีคุณภาพดีทั้งในและต่างประเทศ
- วัตถุประสงค์การลงทุน : เพื่อการออม โดยมุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
- ระดับความเสี่ยง : ระดับ 4 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ)
- สิทธิประโยชน์ทางภาษี: ใช้เป็นกองทุน SSF ลดหย่อนภาษีได้
รายละเอียดเพิ่มเติมกองทุน KFAFIXSSF
2. KFGBRANSSF กรุงศรีโกลบอลแบรนด์อิควิตี้ปันผลเพื่อการออม
- นโยบายการลงทุน : ลงทุนในหุ้นแบรนด์เด่นของบริษัทชั้นนำทั่วโลก ผ่านกองทุนรวมต่างประเทศ ชื่อ Morgan Stanley investment fund-Global Brands fund (Class Z) (กองทุนหลัก)
- วัตถุประสงค์การลงทุน : เพื่อการออม โดยมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวตามกองทุนหลัก (Passive Management)
- ระดับความเสี่ยง : ระดับ 6 (เสี่ยงสูง)
- สิทธิประโยชน์ทางภาษี: ใช้เป็นกองทุน SSF ลดหย่อนภาษีได้
รายละเอียดเพิ่มเติมกองทุน KFGBRANSSF
3. KFTHAIESG กรุงศรีเอ็นแฮนซ์เซ็ทไทยเพื่อความยั่งยืน
- นโยบายการลงทุน : ลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ/หรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ที่ได้รับการคัดเลือกว่ามีความโดดเด่น ด้านความยั่งยืนจากองค์กรหรือสถาบันที่มีความน่าเชื่อถือ
- วัตถุประสงค์การลงทุน : เพื่อการออม โดยมุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
- สิทธิประโยชน์ทางภาษี: ใช้เป็นกองทุน ThaiESG และ SSF ลดหย่อนภาษีได้
รายละเอียดเพิ่มเติมกองทุน KFTHAIESG
การวางแผนซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีด้วยกองทุน SSF และ RMF
ก่อนอื่น ในการวางแผนลงทุนเพื่อ ลดหย่อนภาษี ควรเลือกกองทุนที่กับเป้าหมายทางการเงินของคุณ หากเป้าหมายในการลงทุนของเรา คือการออมเงินระยะยาว ประมาณ 10 ปี ก็ควรเลือกลงทุนใน ThaiESG และ SSF ลดหย่อนภาษี เพราะสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้เมื่อครบ 8 ปี หรือ 10 ปี ไม่ต้องรอจนถึงอายุ 55 ปี
สำหรับคนที่ต้องการออมเงินเพื่อการเกษียณอายุ ควรเลือกกองทุน RMF เพราะนอกจากจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางลดหย่อนภาษี และช่วยให้คุณมีเงินสำรองใช้ในวัยเกษียณ เพราะการเริ่มลงทุนตั้งแต่อายุน้อย ยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้เงินงอกเงยในระยะยาว แต่ถ้าเรามีอายุ 50 ปีขึ้นไป การเลือกลงทุนในกองทุน RMF จะใช้ระยะเวลาสั้นกว่าเพียง 5 ปี ก็สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้
สิ่งที่ควรพิจารณานอกเหนือจากสิทธิประโยชน์ทางภาษี คือ ระดับความเสี่ยงในการลงทุนที่รับได้ควบคู่ไปด้วย ถ้าเราเป็นนักลงทุนระดับความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง แนะนำกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำถึงปานกลางในสัดส่วนที่สูง เช่น พันธบัตร เงินฝาก หรือตราสารหนี้ ซึ่งมักจะมีความเสี่ยงต่ำและสามารถใช้เป็นกองทุน SSF ลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน
การกระจายการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี
การกระจายการลงทุนใน
กองทุน SSF ลดหย่อนภาษี
หรือกองทุน RMF เป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยง โดยควรเลือกลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย ทั้งตราสารหนี้และหุ้น โดยปรับสัดส่วนการลงทุนให้สอดคล้องกับเป้าหมายและความสามารถในการรับความเสี่ยงของคุณ
ทั้งนี้ ควรศึกษาข้อมูล เงื่อนไขและผลการดำเนินงานของแต่ละกองทุนให้เข้าใจก่อนตัดสินใจซื้อ รวมทั้งติดตามปรับพอร์ตการลงทุนของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การลงทุนที่อาจเปลี่ยนแปลงไปได้ตามแต่ละช่วงเวลา
คำเตือน : ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
- กองทุน SSF เป็นกองทุนเพื่อส่งเสริมการออม
- กองทุน RMF เป็นกองทุนที่ส่งเสริมการลงทุนระยะยาวเพื่อเกษียณอายุ
- กองทุน Thai ESG เป็นกองทุนที่ส่งเสริมการออมระยะยาว และสนับสนุนการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย
- ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนทางภาษี หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน
- กองทุน KFGBRANSSF และ PRINCIPAL VNEQRMF มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน อาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้