เพื่อคุ้มครองคุณและครอบครัว
ในยุคปัจจุบัน การดูแลสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นภาระทางการเงินที่หนักอึ้งสำหรับหลาย ๆ ครอบครัว ดังนั้นควรตระหนักถึงความจำเป็น และความสำคัญของการวางแผนเลือก
ทำประกันสุขภาพ เพราะหาก
วางแผนทำประกันเพื่อคุ้มครองค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่ดีและเพียงพอ เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดอย่างการเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพเหมาจ่ายจะสามารถช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่เกิดขึ้น ทำให้ช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินของครอบครัวลงได้
ประกันสุขภาพเหมาจ่าย ครอบคลุมทั้งเจ็บป่วยและอุบัติเหตุ
ประกันสุขภาพเหมาจ่าย คือ ประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งจากกรณีเจ็บป่วยและอุบัติเหตุ โดยความคุ้มครองจะครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน IPD (In-Patient Department) และผู้ป่วยนอก OPD (Out-Patient Department) รวมถึงค่าห้อง ค่าอาหาร ค่ายา ค่าอุปกรณ์การแพทย์ ค่าผ่าตัด ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน ค่าทันตกรรม ค่ารักษาพยาบาลโรคมะเร็ง และค่ารักษาพยาบาลโรคร้ายแรงอื่น ๆ ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ ประกันสุขภาพประเภทนี้ เป็นประกันสุขภาพจ่ายตามจริงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน ด้วยเหตุผลเหล่านี้
1. ความคุ้มค่าจากสิทธิความคุ้มครองที่ได้รับ
ประกันสุขภาพประเภทนี้มักจะให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลแบบเหมาจ่าย โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งหรือระยะเวลา หมายความว่า เมื่อผู้เอาประกันเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของผู้ป่วยในหรือผู้ป่วยนอก *โรงพยาบาลจะเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลตามวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ก่อน ซึ่งผู้เอาประกันไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มหากไม่ได้ใช้เกินวงเงิน อีกทั้งผู้เอาประกันยังไม่จำเป็นต้องแยกซื้อประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก OPD และประกันสุขภาพผู้ป่วยใน IPD เพราะประกันสุขภาพเหมาจ่ายมีประเภทที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมการรักษาไว้ครบถ้วนแล้ว
*ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบประกันสุขภาพเหมาจ่ายของแต่ละบริษัท
2. ความยืดหยุ่นของสิทธิในการเลือกแผนประกันสุขภาพ
ประกันสุขภาพเหมาจ่ายมีให้เลือกหลากหลายแผน ซึ่งแต่ละแผนก็จะมีผลประโยชน์ความคุ้มครอง ตลอดจนค่าเบี้ยประกันที่แตกต่างกันไปด้วย ผู้เอาประกันสามารถเลือกแผนที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของตนเองได้ ยกตัวอย่างเช่น ผู้เอาประกันที่มีอายุน้อยและสุขภาพแข็งแรง อาจเลือกแผนที่มีวงเงินความคุ้มครองไม่สูงมาก แต่หากมีอายุมาก หรือมีโรคประจำตัว อาจเลือกแผนที่มีวงเงินความคุ้มครองสูงขึ้น เป็นต้น
3. ความสะดวกในการเคลมประกัน
ความสะดวกในการเคลมประกันสุขภาพเหมาจ่าย ทำให้ผู้เอาประกันไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล เพียงแค่แสดงบัตรประกันสุขภาพหรือบัตรประชาชน แก่โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการ ไม่ว่าจะกรณีเป็นผู้ป่วยในหรือผู้ป่วยนอก ก็จะได้รับการคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตามวงเงินที่กำหนดโดยไม่จำเป็นต้องสำรองเงินก่อน แล้วต้องมาทำเรื่องเบิกเรื่องเคลมในภายหลังให้ยุ่งยากเสียเวลาแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีอาจจะมีข้อยกเว้นความคุ้มครองสำหรับค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกบางประเภท เช่น ค่ารักษาพยาบาลที่เกิดจากโรคหรืออาการที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ว่าเป็นข้อยกเว้น อาทิ โรคเรื้อรัง โรคที่เกิดจากอุบัติเหตุส่วนบุคคล โรคที่เกิดจากพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา การเสพยาเสพติด ค่ารักษาพยาบาลที่เกิดจากการผ่าตัดเสริมความงาม หรือเป็นโรคหรืออาการที่เกิดจากการกระทำโดยเจตนาของผู้เอาประกัน เป็นต้น
ประโยชน์ของประกันสุขภาพเหมาจ่าย ที่ไม่ควรมองข้าม
เมื่อทราบเหตุผลหลัก ๆ ที่ผู้คนให้ความสนใจประกันสุขภาพเหมาจ่ายกันไปแล้ว ทีนี้เรามาดูผลประโยชน์ที่ผู้เอาประกันจะได้รับ เมื่อซื้อประกันเหมาจ่ายกันบ้างดีกว่า ว่ามีอะไรบ้าง
1. วงเงินความคุ้มครองสูง
ประกันสุขภาพเหมาจ่ายส่วนใหญ่ มักกำหนดวงเงินความคุ้มครองแบบเหมารวมต่อปี โดยผู้เอาประกันสามารถเลือกวงเงินความคุ้มครองได้ตามความต้องการ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมักมีวงเงินคุ้มครองสูงกว่าประกันสุขภาพทั่วไปที่มีวงเงินความคุ้มครองแบบรายครั้ง หรือคุ้มครองตามรายการเจ็บป่วยและอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพเหมาจ่ายจะช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ตามวงเงินที่ระบุไว้ในเงื่อนไขของกรมธรรม์ จึงหมดกังวลได้เลย
2. ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทุกประเภท
ประกันสุขภาพเหมาจ่าย ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทุกประเภท ทั้งค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก* (OPD) รวมถึงค่ายา ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ ค่าผ่าตัด ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าพาหนะฉุกเฉิน เป็นต้น โดยไม่ต้องสำรองจ่ายก่อน และยังให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้งเจ็บป่วยและอุบัติเหตุ โดยไม่ต้องซื้อประกันสุขภาพแยกหลาย ๆ เล่ม
*ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบประกันสุขภาพเหมาจ่ายของแต่ละบริษัท
3. คุ้มครองต่อเนื่อง เบี้ยประกันไม่แพงเมื่อเทียบกับประโยชน์ที่ได้รับ
ประกันสุขภาพเหมาจ่ายให้ความคุ้มครองต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยผู้เอาประกันสามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด โดยไม่ต้องรอให้หมดระยะเวลารอคอย แม้อาจมีเบี้ยประกันสูงกว่า แต่หากพิจารณาจากวงเงินความคุ้มครองที่สูงกว่า และครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทุกประเภทแล้ว เบี้ยประกันสุขภาพเหมาจ่ายก็ถือว่ามีความคุ้มค่ามากกว่า
4. เบี้ยประกันสุขภาพเหมาจ่ายสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้
เบี้ยประกันสุขภาพเหมาจ่ายสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุด 25,000 บาทต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ที่ช่วยให้ผู้ทำประกันสุขภาพมีเงินเหลือเพิ่มขึ้น
3 ข้อควรพิจารณา เลือกประกันสุขภาพเหมาจ่ายอย่างไรให้เหมาะกับเรา
การเลือกซื้อประกันสุขภาพเหมาจ่ายนั้น จะต้องเลือกให้ซื้อให้เหมาะสมกับความต้องการ เพราะแต่ละคนก็มีความต้องการใช้ประกันสุขภาพแตกต่างกัน ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการพิจารณาให้ถี่ถ้วน เพื่อให้ได้แผนประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองที่เป็นประโยชน์กับตัวเรามากที่สุด ซึ่ง 3 ข้อควรพิจารณาใน
การเลือกซื้อประกันสุขภาพมีดังนี้
1. งบประมาณในการจ่ายเบี้ยประกัน
สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาก่อนเลือกประกันเหมาจ่าย คือ งบประมาณที่สามารถชำระเบี้ยประกันต่อเดือนหรือต่อปีได้ โดยพิจารณาจากรายได้และรายจ่าย ตัวอย่างเช่น หากผู้เอาประกันมีรายได้ต่อเดือน 50,000 บาท และต้องการจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพเหมาจ่ายไม่เกิน 10% ของรายได้ ก็ควรเลือกประกันสุขภาพเหมาจ่ายที่มีเบี้ยประกันต่อเดือนไม่เกิน 5,000 บาท
2. ความคุ้มครองที่ต้องการ
นอกจากงบประมาณแล้ว สิ่งต่อมาที่ควรพิจารณา คือ ต้องการความคุ้มครองในด้านใดบ้าง เช่น ต้องการความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งกรณีผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก หรือต้องการความคุ้มครองโรคร้ายแรงหรือไม่ ตัวอย่างเช่น หากผู้เอาประกันมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ก็ควรเลือกประกันสุขภาพโรคร้ายแรงเผื่อไว้ด้วย นอกจากนี้อย่าลืมพิจารณาด้วยว่า ต้องการค่าชดเชยระหว่างการรักษาพยาบาลหรือไม่ หากต้องการประกันสุขภาพชดเชยรายได้ก็จะช่วยตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดี
3. เปรียบเทียบแผนประกันให้หลากหลาย
เมื่อพิจารณางบประมาณและความต้องการแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่สำคัญและควรพิจารณา คือ การเปรียบเทียบแผนประกันหลาย ๆ แบบ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ได้เลือกแผนประกันที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณ และสามารถให้ผลประโยชน์ความคุ้มครองกับได้คุ้มค่ามากที่สุดแล้ว
นอกจาก 3 ข้อหลัก ๆ นี้แล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ควรพิจารณาเพิ่มเติม เช่น ระยะเวลาความคุ้มครอง เงื่อนไขความคุ้มครอง ข้อยกเว้นความคุ้มครอง และความคุ้มครองเพิ่มเติม เช่น การคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลนอกประเทศ เป็นต้น
กรุงศรีประกันสุขภาพตามใจ พลัส ประกันสุขภาพเหมาจ่ายที่คุณเลือกได้ตามใจ
หลายคนที่เริ่มสนใจทำประกันเหมาจ่ายแล้ว อาจสงสัยว่า แล้วประกันสุขภาพเหมาจ่ายที่ไหนดี? ขอแนะนำ “
กรุงศรีประกันสุขภาพตามใจ พลัส” ประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่าย สามารถซื้อประกันสุขภาพออนไลน์ได้ และมี 7 จุดเด่นสำหรับคุณ ดังนี้
- เลือกและปรับแผนประกันได้ตามความต้องการ ทั้งในส่วนวงเงิน, ความคุ้มครอง 1 ล้าน - 30 ล้านบาท, ค่าเบี้ย และรูปแบบการจ่ายเบี้ยประกัน (รายปี รายครึ่งปี หรือรายเดือน)
- ทำได้ตั้งแต่อายุ 6 - 80 ปี
- เป็นประกันสุขภาพคุ้มครองทันทีตามที่ระบุวันไว้ในกรมธรรม์
- เบี้ยประกันสุขภาพเริ่มต้นหลักพัน ได้รับคุ้มครองหลักล้าน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข
- เพิ่มความคุ้มค่าได้ยิ่งขึ้น เมื่อเลือกซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติม ที่ครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) ค่าชดเชยรายวัน และโรคร้ายแรง 48 โรค
- ได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอก ภายใน 24 ชั่วโมง หลังการเกิดอุบัติเหตุ แบบจ่ายตามจริง
- เบี้ยประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุด 25,000 บาท
“สุขภาพดีไม่มีขาย แต่ประกันสุขภาพเหมาจ่ายมีให้ซื้อ” และเมื่อไม่มีใครรู้ได้เลยว่า โรคร้ายแรง หรืออุบัติเหตุจะเกิดขึ้นเมื่อไร ดังนั้นการดูแลตนเองให้ดีที่สุด จึงเป็นสิ่งที่สามารถช่วยบรรเทาเหตุร้ายต่าง ๆ ลงได้ ทั้งการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่สม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร การออกกำลังกาย การตรวจเช็กสุขภาพ รวมถึงการมีประกันสุขภาพไว้ดูแลเมื่อเกิดเจ็บป่วย ส่วนใครที่ยังอยู่ในระหว่างเลือกประกันสุขภาพที่ไหนดี หรือมีข้อสงสัยและอยากได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลกับผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้ที่ช่องทางฮอตไลน์ 02-296-5959 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00 น.-17.00 น. หรือ
ฝากข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับก็ได้เช่นกัน