ท่ามกลางเทรนด์สุขภาพที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไป คนพยายามหลีกเลี่ยงการกินของที่มีน้ำตาลเยอะ ทั้งนม ขนม ลูกอม เครื่องดื่ม เพราะกลัวอ้วน ดูเหมือนว่า “น้ำตาล” กลายเป็นศัตรูของคนอยากมีสุขภาพดี เรามาดูวิธีการรับมือของบริษัทลูกอมของญี่ปุ่นที่มีอายุบริษัทมากกว่า 100 ปี เค้าปรับตัวอย่างไรเมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้
ซ้าย: แพ็กเกจตอนวางขายปี 1955, ขวา: แพ็กเกจหลังปรับรูปแบบปี 2015
บริษัทที่ผมนำมาเล่านี้มีชื่อว่าบริษัท Kanro เป็นบริษัทผลิตลูกอมที่มีอายุเก่าแก่มากใน
ประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งบริษัทตั้งแต่ปี 1912 ผลิตภัณฑ์ขายดีตลอดกาลของบริษัทมีชื่อว่า Kanro Ame หรือลูกอม Kanro เริ่มขายตั้งแต่ปี 1955 และยังขายได้จนถึงปัจจุบัน ลูกอมมีลักษณะเป็นเม็ดกลม ๆ สีน้ำตาล ทำมาจากน้ำตาล เกลือ และน้ำเชื่อมกลูโคส สีน้ำตาลของลูกอมได้มาจากโชยุ หรือซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น พอเราเห็นส่วนผสม ก็อยาก “ร้องจ๊าก” กันแล้วใช่ไหมครับ ไหนจะน้ำตาล ไหนจะน้ำเชื่อมกลูโคส ฟังดูเผิน ๆ มันไม่มีจุดไหนที่ดีต่อสุขภาพของเราเอาเสียเลย
แพ็กเกจลูกอม Kanro ที่วางขายในปัจจุบัน
จริง ๆ แล้วในช่วงปี 2017 ทางบริษัท Kanro พบว่ากำลังเจอ
ปัญหาใหญ่ ๆ 3 อย่าง
- ผลิตภัณฑ์ขายดีตลอดกาลอย่าง Kanro Ame ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มลูกอมชนิดแข็ง (Hard Candy) กำลังอยู่ในช่วงขาลง ซึ่งตรงกันข้ามผลิตภัณฑ์กัมมี่ (Gummy) ขนมเยลลี่เคี้ยวหนึบที่เข้ามาครองตลาดในส่วนนี้แทน ทำให้ Kanro Ame มียอดขายตกลง มิหนำซ้ำลูกค้ากลุ่มเดิมที่เป็นแฟนของ Kanro Ame ก็เริ่มอายุมากขึ้น อัตราการบริโภคลูกอม Kanro Ame น้อยลง ซึ่งเป็นปัญหาที่มักจะเจอในบริษัทที่มีอายุเก่าแก่
- มีกระแสของการลดการบริโภคน้ำตาลในญี่ปุ่น น้ำตาลกลายเป็นศัตรูของคนอยากมีสุขภาพดี ซึ่งผลิตภัณฑ์ประเภทลูกอมได้รับผลกระทบหนักมาก เพราะมีภาพลักษณ์ไม่ค่อยต่างกับการทานน้ำตาล
- ลูกอมในญี่ปุ่น ถูกตีตราว่าเป็นขนมหวานสำหรับเด็ก ทำให้ยากต่อการทำแบรนด์ให้ฮิตในหมู่ผู้ใหญ่
ด้วย 3 ปัญหาใหญ่นี้ บริษัท Kanro จึงต้องหาวิธีการรับมือ และปรับตัวเพื่อให้เข้ากับเทรนด์สุขภาพที่เปลี่ยนไปแล้ว เริ่มต้นจากการตั้งทีมขึ้นมาดูแลโปรเจกต์นี้โดยเฉพาะ โดยรวบรวมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งส่วนโรงงาน และส่วนออฟฟิศรวม 30-40 คน จากนั้นก็มีการทำเวิร์กช็อป ระดมความคิด เพื่อให้ออกมาซึ่งหนทางการแก้ไขที่ดีที่สุด โดยเฉพาะการปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์สุขภาพ ที่ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มส่วนใหญ่มักจะพัฒนา ”ผลิตภัณฑ์น้ำตาลน้อย” หรือ “ผลิตภัณฑ์ไร้น้ำตาล” ขึ้นมา บริษัท Kanro จะมีจุดยืนอย่างไรกับเรื่องนี้ ซึ่งก็มีกลุ่มคนในทีมที่ออกมาบอกว่า หากนำเสนอผลิตภัณฑ์โดยการเอา “น้ำตาล” มาเป็นตัวชูโรงอาจจะเป็นความเสี่ยงต่อบริษัทก็ได้
แต่ในท้ายที่สุดบริษัท Kanro ก็เลือกที่จะเอา “น้ำตาล” มาเป็นจุดเด่นของบริษัทอยู่ดี เพราะบริษัทมีความเชื่อมั่นว่า “น้ำตาล” คือสารอาหารจำเป็นที่มนุษย์จะขาดไม่ได้ หากบริโภคอย่างถูกวิธีในปริมาณที่เหมาะสมจะมีผลดีมากกว่าผลเสีย ยกตัวอย่างเช่น น้ำตาลกลูโคส (Glucose) เป็นแหล่งพลังงานสำคัญสำหรับสมอง, โอลิโกแซ็กคาไรด์ (Oligosaccharide) ช่วยปรับความสมดุลในลำไส้, ไซลิทอล (Xylitol) ซึ่งเป็นสารให้ความหวาน สามารถช่วยป้องกันฟันผุได้ พร้อมด้วยประสบการณ์ที่เป็นผู้ผลิตลูกอมมาตั้งแต่ปี 1912 ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านลูกอมตัวจริง
บริษัทจึงเลือกมีจุดยืนเป็นตัวกลางสื่อสารข้อดีของการทาน “ลูกอม” (น้ำตาล) ให้ผู้บริโภคได้รับรู้ในวงกว้าง สร้างสโลแกนติดปากที่ชื่อว่า Sweeten the Future “เติมความหวานให้กับอนาคต” พร้อมวางตัวเป็นผู้นำในการสื่อสารเรื่องน้ำตาล (ความหวาน) แบบถูกต้องโดยมีเป้าหมายว่าจะสื่อสารเรื่องดังกล่าวให้ถึงผู้คนรวม 15 ล้านคน ภายในปี 2030
สโลแกนใหม่ของบริษัท Sweeten the Future “เติมความหวานให้กับอนาคต”
เมื่อจุดยืนบริษัทชัดเจน พนักงานเห็นลู่ทาง จึงเกิดเป็นโครงการต่าง ๆ ตามออกมามากมาย โครงการหนึ่งที่ผมเห็นแล้วรู้สึกทึ่งมากคือ การเอาลูกอม Kanro Ame มาใช้เป็นส่วนประกอบในการทำอาหาร เมื่อเดือนเมษายน ปี 2020 ในเว็บไซต์ทางการของบริษัท Kanro มีการเปิดเผยสูตรอาหารเมนูต่าง ๆ โดยใช้ Kanro Ame เป็นส่วนผสม แล้วบอกว่าเคล็ดลับความอร่อยของอาหารอยู่ที่ Kanro Ame เพราะช่วยให้เกิดรสชาติพิเศษได้ (ซึ่งก็มีความสมเหตุสมผลอยู่นะครับ เพราะ Kanro Ame ทำจากส่วนผสมหลักที่มีอยู่ในครัว เช่น น้ำตาล กลูโคสไซรับ โชยุ เกลือ)
แต่เมื่ออาหารผ่านอุณหภูมิที่เหมาะสมจะช่วยให้เกิดรสชาติพิเศษขึ้นมาได้ ยกตัวอย่างเช่น เมนูข้าวผัดเบคอน และเห็ดไมตาเกะที่หุงได้ในหม้อหุงข้าว เมนูข้าวหน้าแกงกะหรี่ เป็นต้น ในปี 2021 ซึ่งเป็นปีถัดไปจากการเผยแพร่สูตรอาหารในเว็บไซต์ ก็มี Influencer และ Cooking Expert ชื่อดังชาวญี่ปุ่นที่มีผู้ติดตามในอินสตาแกรมมากกว่า 550,000 คนก็ออกหนังสือ “โรงอาหาร Kanro Ame” ด้วยซึ่งก็ขายดีมาก ๆ เลยครับ
Kanro Ame Shokudou หรือโรงอาหารลูกอม Kanro
https://sweeten.kanro.jp
ทั้งหมดนี้คือวิธีการปรับตัวของบริษัท Kanro บริษัทลูกอมที่มีอายุมากกว่า 100 ปี ต่อเทรนด์สุขภาพของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ก่อนศึกษาเรื่องราวของบริษัทนี้ ผมก็แอบเดาว่า เค้าต้องปรับตัวตามเทรนด์สุขภาพ ด้วยการพัฒนาสินค้าใหม่น้ำตาลน้อย ไร้น้ำตาลเหมือนที่บริษัทผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มอื่น ๆ เค้าทำกัน แต่ไม่ใช่เลย บริษัท Kanro ยังคงมีจุดยืนชัดเจนว่า “น้ำตาล” เป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ ความรู้ความเข้าใจของผู้บริโภคต่างหากที่สำคัญกว่า จึงใช้องค์ความรู้ และประสบการณ์ที่สั่งสมมาตลอด 100 กว่าปีมาใช้ในการให้ความรู้กับผู้บริโภค ซึ่งก็มีความน่าเชื่อถือสูงมาก เพราะเป็นบริษัทที่มีประวัติเก่าแก่อยู่คู่กับ
คนญี่ปุ่นมากกว่าร้อยปีแล้ว และสุดท้ายจุดยืนที่ชัดเจนนี้ยังช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคมีความเข้าใจ ส่งผลให้ยอดขาย Kanro Ame กลับขึ้นมาดีได้อีก
การทำธุรกิจในยุคต่อไปนี้ นอกจากการปรับตัวตามเทรนด์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่อาจจะต้องศึกษาเพิ่มเติมคือ วิธีการปรับตัวและวิธีการตัดสินใจของบริษัทที่มีอายุเก่าแก่ กว่าจะมีวันนี้ได้พวกเขาคงเจอการเปลี่ยนแปลงนับครั้งไม่ถ้วน การเรียนรู้วิธีการปรับตัวจากบริษัทเหล่านี้น่าจะเป็นประโยชน์กับเราในการขับเคลื่อนให้บริษัทมีความยั่งยืนในระยะยาวครับ
Reference:
- เอกสารชี้แจงธุรกิจต่อนักลงทุนของบริษัท Kanro ในวันที่ 28 ตุลาคม 2020
https://www.kanro.co.jp
- เมนูอาหาร Kanro Ame Shokudou
https://sweeten.kanro.jp